

- ยันเมื่อวานนี้ ครม. ไม่ได้ตีกลับแต่อย่างใด ไม่ได้ยกเลิกข้อเสนอของสธ. ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
- พร้อมยัน สธ. เป็นฝ่ายสนับสนุน กทม.แก้โควิด อยู่แล้ว
- เผยกรมควบคุมโรคจ่อชง ‘ศบค.’ ปรับลดเงินประกันนักท่องเที่ยวเข้าไทยเหลือ 3 หมื่นเหรียญฯ
วันนี้ (23 ก.พ.65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เปิดเผยก่อนการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โควิด 19 (ศบค.) ถึงกรณีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชะลอคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ยกเลิกยูเซ็ปออกไปก่อนว่า เป็นเพราะเราต้องการรักษาระบบความมั่นคงของสาธารณสุขให้มั่นใจ เพราะการที่มีคนติดเชื้อในแต่ละวันมากขึ้น ก็ยิ่งต้องให้เกิดความมั่นใจว่าถ้าจะต้องการเตียง หรือต้องการไปโรงพยาบาลเรามีพร้อม นี่คือหลักการของกระทรวงสาธารณสุขที่เรานำเสนอ แต่ครม.ก็มีสิทธิ์ที่จะมีความห่วงใย ซึ่งเราก็อธิบายไป
“ยืนยันว่าเมื่อวานใน ครม. ไม่มีการตีตกหรือตีกลับแต่อย่างใด อย่าไปเข้าใจผิด ไม่ได้ยกเลิกข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพียงแต่ขอให้ไปพิจารณาทำความเข้าใจให้ประชาชนเกิดความเข้าใจก่อนประชาชนจะได้ไม่สับสน ซึ่งในที่ประชุม ศบค.วันนี้ อาจจะคุยเรื่องนี้กันด้วย เพราะเป็นการประชุมที่เกี่ยวข้องกับโควิดโดยตรง ไม่เหมือนกับประชุม ครม. ที่บางครั้งข้อมูลของรัฐมนตรีแต่ละท่านอาจไม่ครบถ้วน แต่เข้าใจว่าทุกคนมีความห่วงใย แต่ยืนยันว่าไม่มีการตีตกหรือยกเลิก ซึ่งนายกฯย้ำเองว่าไม่ใช่การตีตกหรือยกเลิก เพียงแต่ต้องการทำให้สมูทที่สุด และทางสธ.ยืนยันว่ากรณีนี้ไม่ใช่เรื่องของการประหยัดงบประมาณ เพราะงบประมาณที่ใช้ตรงนี้นายกฯผันมาจากงบกลาง ซึ่งนายกฯต้องการ ให้นำมาดูแลประชาชนให้ดีที่สุด” นายอนุทิน กล่าว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังมีการถามถึงสายด่วนที่ประชาชนโทรไป แต่ไม่มีคนรับสาย จะแก้ปัญหาอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กำลังแก้ปัญหาอยู่ คงต้องเพิ่มคู่สาย หรือเพิ่มจำนวนคนที่รับสายมากขึ้น แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น จะเกิดใน กทม. ซึ่งเราให้กรมการแพทย์เป็นฝ่ายประสานกับกทม. ที่จะเร่งแก้ปัญหาต่างๆ
ทั้งนี้ต้องขอบคุณทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น มูลนิธิเส้นด้าย หรือดาราอย่างคุณได๋ ไดอาน่า ที่ช่วยสะท้อนปัญหาออกมา ซึ่งยังยืนยันว่าเรามีเตียงพอ ไม่ว่าจะเป็นกทม. หรือในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่เป็นการดูแลของสธ.โดยตรง ทางปลัดสธ.ได้เดินสายทั่วประเทศ ได้ยืนยันกับตนว่ามีความพร้อม ส่วนในกทม. ขอย้ำอีกทีว่าสธ.มีภารกิจหลักคือสนับสนุนกทม. แต่การบริหารจัดการหรือการสั่งการต่างๆเป็นหน้าที่ของ กทม.
เมื่อถามว่าให้ความมั่นใจได้หรือไม่ว่า การระบาดรอบนี้จะไม่เกิดปัญหาเหมือนในอดีตที่ กทม.กับ สธ.ทำงานไม่ค่อยประสานกัน นายอนุทิน กล่าวว่า มีการประสานงานกันโดยตลอด ยังไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกัน กทม.เป็นเจ้าภาพหลักสธ.เป็นผู้สนับสนุน เราพร้อมสนับสนุนเจ้าภาพหลักอย่างเต็มที่ ซึ่งทาง รมช.สธ. ก็เป็นประธานประชุมเกี่ยวกับการบริหารจัดการสถานพยาบาล และเตียงที่จะสนับสนุนฝ่าย กทม.ได้ตลอด
นอกจากนี้เมื่อถามว่า ทาง กทม.บอกว่าจะมีการเพิ่มเตียงสีแดง 40 เตียง หลังพูดคุยกันแล้ว ทาง กทม.ขอให้สธ.สนับสนุนอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตรงนี้ต้องถาม กทม. นโยบายของตนในฐานะรมว.สาธารณสุขคือ ให้สธ.สนับสนุนเต็มที่ถ้ามีการร้องขอจาก กทม.มา
“ขอย้ำว่าต้องร้องขอมาด้วยนะ เพราะในระบบราชการอยู่ดีๆ เราจะเข้าไปดำเนินการเลยไม่ได้ จำได้หรือไม่ ตอนนั้นสธ.จะเข้าไปทำอะไรที่คลองเตยท่านผู้ว่าฯกทม. ยังบอกว่า ตรงนี้เป็นภาระความรับผิดชอบของท่าน สธ.ต้องขอท่านก่อน เราก็ต้องเคารพกติกา” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า จากนี้จะไม่เกิดความขัดแย้งระหว่าง สธ.กับ กทม.แล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “มันไม่เคยขัดแย้งขัดแย้งที่ไหนล่ะ เกื้อกูลกันมาตลอด ไม่เคยขัดแย้งกันเลยแม้แต่น้อย แต่เราต้องไม่ก้าวก่ายหน้าที่การงานกัน”
อีกทั้งเมื่อถามว่ามีภาพผู้ป่วยที่รอคอยเตียงอยู่จำนวนมากจะแก้ปัญหาอย่างไร นายอนุทิน ตรงนี้ต้องไปบอก กทม. ทาง สธ. แค่สนับสนุน ซึ่งในกทม. ที่ทาง สธ. สนับสนุนอยู่เช่น โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิศสิน โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ซึ่งโรงพยาบาลเหล่านี้ สธ.เอามาซัพพอร์ต สนับสนุน กทม. แต่การบริหารจัดการสถานการณ์ต้องเป็นเรื่องของ กทม. ดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า วันนี้ตัวเลขติดเชื้อโควิดสูงขึ้นถึง 20,000 กว่าราย ทาง ศบค.จะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องเน้นว่าอย่าให้มีการเจ็บป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต อย่าให้เพิ่มขึ้น โดยต้องโฟกัสไปที่จุดที่สำคัญที่สุด คือต้องไม่เจ็บป่วยรุนแรง และต้องไม่เสียชีวิต ส่วนเรื่องการติดเชื้อนั้น ปกติคนก็ต้องทำงาน และมีกิจกรรมก็ต้องระมัดระวัง ถ้าจะควบคุมการติดเชื้อให้มากที่สุด หรือควบคุมความเสียหาย ก็ต้องฉีดวัคซีนเข็มบูทเตอร์จะเข็ม 3 หรือเข็ม 4 ก็แล้วแต่
ทั้งนี้เมื่อถามว่า มีข้อเสนอว่าควรงดการเสนอรายงานตัวเลขของผู้ติดเชื้อแต่ละวัน เพราะทำให้คนตกใจ นายอนุทินกล่าวว่า อยู่กับความจริงดีที่สุด สิ่งที่ สธ.จะไม่ทำคือการปรุงแต่งตัวเลข และ ปิดบังความจริง เรื่องโควิดเราเสนอความจริงให้ประชาชนรับทราบมาตลอด ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ประกาศพบผู้ติดเชื้อโควิดนอกประเทศจีน เราเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากนำเสนอความจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า สธ.จะเสนอการปรับลดวงเงินประกันนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยจากเดิมที่วงเงิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้กรมควบคุมโรคจะเสนอให้ที่ประชุม ศบค.พิจารณาว่า วงเงินประกันสุขภาพลดเหลืออยู่ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในการรักษานักท่องเที่ยวที่เป็นคนต่างชาติที่ติดโควิด-19 ซึ่งคิดว่าเหมาะสมและน่าจะเพียงพอ ต่อการอำนวยความสะดวกกับทุกฝ่าย
“ถ้าเราไปเน้นในเรื่องของวงเงินความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกันก็จะสูงขึ้น จริงๆ มีการขอให้ลดเหลือ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยซ้ำ แต่เราก็บอกว่าน่าจะสัก 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และเมื่อตีเป็นเงินไทยก็เกือบล้าน เพราะเราก็ดูจากผู้ป่วยโควิดคนไทยที่ป่วยถึงขั้นเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายก็ประมาณ 200,000 บาท ซึ่งส่วนนี้ไม่ได้เป็นส่วนที่กระทบกระเทือนงบประมาณอะไรของประเทศ และไม่ใช่ว่าจะป่วยทุกคน” นายอนุทิน กล่าว