ห่วงก่อหนี้เกินตัว  บิ๊กตู่ สั่งเร่งดึงเด็กออมตั้งแต่ 15 ปี เล็งบรรจุลงหลักสูตรโรงเรียน



  • ชี้แรงงานนอกระบบไทย ไร้ออม 16.1 ล้านคน
  • กอช. ตั้งเป้าเพิ่มเงินสมทบใช้ได้
  • พ.ค.นี้ ดันสมาชิกเพิ่ม 3 ล้านคน

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  ได้มอบนโยบายให้ กอช.เร่งขยายร่วมมือกับสถานศึกษา เพื่อเล็งดึงกลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษาเข้ามาออมเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันสัดส่วนการออมของเยาวชนมีจำนวนน้อย  อีกทั้งมีแนวโน้มสร้างหนี้สูง กอช.จึงเข้าไปส่งเสริมให้ความรู้ในโรงเรียน มหาวิทยาลัย เพื่อให้เริ่มออมได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี ขณะเดียวกัน จะร่วมกระทรวงศึกษาธิการ ผลักดันการจัดทำหลักสูตรการเรียน วิชาการออมขึ้นมาเป็นวิชาบังคับ เพื่อปลูกฝังให้เด็กมีวินัยในการใช้เงิน และหันมาออมเพิ่มขึ้น

“การออมเพื่อการเกษียณเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญโดยรัฐบาลได้มีนโยบายเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐในการพัฒนาระบบการออมให้มีประสิทธิภาพและเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และบรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมทั้งแผนปฏิรูปประเทศด้านสังคม”

นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวต่อว่า  กรณีที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 24 ม.ค.66 อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราการจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบ พ.ศ. …. ปรับเพิ่มให้สมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จ่ายเงินสะสมและเงินสมทบเข้ากองทุนสูงสุดไม่เกิน  30,000 บาทต่อปี  และให้รัฐบาลจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสำหรับสมาชิกตามช่วงอายุไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี  ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบทางกฎหมาย และคาดว่าจะมีการประกาศลงราชกิจจา ให้มีผลบังคับใช้ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.66

ทั้งนี้การปรับเพิ่มเงินสะสม และเงินสมทบน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงคนให้มาออมเพิ่มได้มากขึ้น โดยปัจจุบัน กอช.มีสมาชิก 2.57 ล้านคน และพยายามจะทำให้ได้ถึง 3 ล้านคนโดยเร็วที่สุด  ซึ่งกระทรวงการคลัง ประเมินว่า จำนวนเงินสะสมและเงินสมทบที่สูงขึ้น จะทำให้สมาชิก กอช. มีเงินบำนาญเพิ่มขึ้น  โดยสมาชิก กอช. ที่เริ่มออมตั้งแต่อายุ 15 ปี และออมต่อเนื่องจนถึงอายุ 60 ปี จะมีโอกาสได้รับเงินบำนาญประมาณ 12,000 บาทต่อเดือน ในกรณีส่งเงินสะสมเต็มเพดานเงินสะสม โดยเงินบำนาญที่คาดว่าจะได้รับขึ้นอยู่กับจำนวนเงินในบัญชีประกอบด้วยเงินสะสมของสมาชิก เงินสมทบจากรัฐ และผลตอบแทนจากการนำเงินดังกล่าวไปลงทุน 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ กอช. ยังได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย อำนวยความสะดวกให้สมาชิกเข้าออมเงินกับกองทุนฯ ได้ง่ายขึ้น  โดยสามารถออมเงินผ่านสมาร์ทโฟน บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งสามารถออมต่อเนื่องได้ตั้งแต่ 50 บาท สูงสุด 13,200 บาทต่อปี พร้อมรับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐในเดือนถัดไป ตามช่วงอายุสูงสุด 100% หรือไม่เกิน 1,200 บาทต่อปี และเงินออมของสมาชิกสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินบุคคลธรรมดาประจำปี 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันยังมีแรงงานนอกระบบอีกจำนวนมากที่ยังไม่มีการออมเพื่อการเกษียณจำนวนมาก โดยในปี 65 พบว่าแรงงานนอกระบบ 29.5 ล้านคน มีการออมเพื่อการเกษียณ 13.4 ล้านคน หรือคิดเป็น 45%  ของแรงงานนอกระบบทั้งหมด แบ่งเป็น ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 แห่งกฎหมายประกันสังคม 10.9 ล้านคน และสมาชิก กอช. 2.5 ล้านคน จึงทำให้มีแรงงานนอกระบบที่ยังไม่มีการออมเพื่อการเกษียณอีก 16.1 ล้านคน หรือ 55% ของแรงงานนอกระบบทั้งหมด