ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นกว่า 70 จุด ตัวเลขเศรษฐกิจ ผลประกอบการดีหนุน

  • สหรัฐฯ ประกาศผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ขยายตัว 5.2%
  • ฟุตล็อกเกอร์ อิงค์ื ประกาศผลประกอบการแข็งแกร่ง หนุนดัชนีบวก
  • นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะประกาศวันพรุ่งนี้

ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นต่อเนื่องตลอดเดือน พ.ย.ท่ามกลางความคาดหมายว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว

เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,490.29 จุด เพิ่มขึ้น 73.31จุด หรือ 0.21%  ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,575.66จุด เพิ่มขึ้น  20.77 จุด หรือ 0.46% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 14,363.88 จุด เพิ่มขึ้น  82.12 จุด หรือ 0.58% 

นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25% โดยมองว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.2566, ม.ค.2567 และมี.ค.2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค.2567 และมิ.ย.2567

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.2566

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2566 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 5.2% ในไตรมาสดังกล่าว ซึ่งเป็นการเติบโตสูงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4/2564

การขยายตัวดังกล่าวสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 4.9% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 5.0% ทั้งนี้ การขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 ได้รับแรงหนุนจากการลงทุนของภาคเอกชน และการใช้จ่ายของรัฐบาล อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์ปรับลดตัวเลขการขยายตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภคสู่ระดับ 3.6% ในไตรมาส 3 จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 4.0%

ราคาหุ้นของบริษัทฟุตล็อกเกอร์ อิงค์ (Foot Locker Inc) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกอุปกรณ์กีฬายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นเกือบ 20% ในวันนี้ หลังเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทมีกำไร 30 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 21 เซนต์/หุ้น มีรายได้ 1.99 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.96 พันล้านดอลลาร์

ตลาดจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ชะลอตัวลงในเดือนต.ค. ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.4% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. จากระดับ 0.4% ในเดือนก.ย.

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.7% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. จากระดับ 0.3% ในเดือนก.ย.