หุ้นสหรัฐขึ้นไม่หยุด ดาวโจนส์ดีดกว่า 530 จุด คลายกังวลโอมิครอน



.เจพีมอร์แกน เชส แนะนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเปิดประเทศและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์
.นักลงทุนซื้อหุ้นต่อเนื่อง หลังคาดโอมิครอน ไม่มีผลแรงเท่าโควิดเดลตา
.นักวิเคราะห์เชื่อมนต์ขลัง “ซานต้า แรลลี่” ฟันธงเดือน ธ.ค.หุ้นขาขึ้นแน่นอน

เมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ35,762.11 จุด
เพิ่มขึ้น 535.08 จุด หรือ +1.52% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 15,646.49 จุด เพิ่มขึ้น 421.34 จุด หรือ +2.78% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,684.04 จุด เพิ่มขึ้น 92.37 จุด หรือ +2.01%

ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งต่อ หลังนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน หลังจากนายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าไวรัสโอมิครอนก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง โดย เจพีมอร์แกน เชส ออกรายงานแนะนำให้นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเปิดประเทศและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มอุตสาหกรรมปรับขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ตามปกติของทุกปีตลาดหุ้นสหรัฐจะดีดตัวขึ้น ในเดือนธ.ค.โดยได้รับปัจจัยบวกจากปรากฎการณ์ “ซานต้า แรลลี่” ซึ่งมักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่

นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ธ.ค.ครั้งสุดท้ายของปี หลังจากที่ผ่านมานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะปูทางให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 17.6% สู่ระดับ 6.71 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.68 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐร่วงลง 5.2% ในไตรมาส 3 หลังจากขยายตัว 2.4% ในไตรมาส 2 โดยต้นทุนแรงงานต่อหน่วยพุ่งขึ้น 9.6% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบรายไตรมาส หลังจากเพิ่มขึ้น 5.9% ในไตรมาส 2 และเมื่อเทียบรายปี ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 6.3% ในไตรมาส 3