หอต่างประเทศ ยัน “นายกฯ” ไม่ได้ใช้ “อู่ฮั่นโมเดล” คุมโควิดในไทย

.มีแค่ทีมแพทย์เสนอล็อกดาวน์ 4 สัปดาห์และทำงานที่บ้าน 100%

.เอกชนลั่นทำไม่ได้เหตุโรงงานอุตสาหกรรมต้องเดินเครื่องทุกวัน

.พร้อมหวั่นใช้ “อู่ฮั่นโมเดล” ทำเศรษฐกิจเสียหายหนัก

นายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในไทย (JFCCT) ซึ่งเป็น 1 ใน 40 ซีอีโอ พลัส ที่ประชุมร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 และฟื้นฟูประเทศไทยว่า ในที่ประชุม นายกฯเป็นห่วงเรื่องการแพร่ระบาด และพร้อมจะทำงานร่วมกับภาคเอกชนในการแก้ปัญหา ซึ่งนายกฯได้โชว์แผนที่ของประเทศไทยให้ดูว่า มีการระบาดจังหวัดใดบ้าง และแต่ละจังหวัดสถานการณ์เป็นอย่างไร โดยได้มอนิเตอร์ทุกวัน ส่วนจะมีการล็อกดาวน์เพิ่มหลังครบ 14 วันหรือไม่ ต้องขึ้นกับจำนวนผู้ติดเชื้อ ซึ่งนายกฯบอกว่า การแก้ปัญหาต้องดูที่ผลทางการแพทย์ และทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้แก้ปัญหาโดยใช้อารมณ์ ความรู้สึก

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า นายกฯต้องการใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดขั้นสูงสุดแบบ “อู่ฮั่นโมเดล”  แต่ 40 ซีอีโอพลัส คัดค้านนั้น ในที่ประชุมไม่ได้หารือกันเรื่องนี้ เพียงแต่ทีมแพทย์ที่ปรึกษา เสนอว่า ให้ล็อกดาวน์ 4 สัปดาห์ และต้องมีมาตรการคุมเข้มจริงๆ เช่น เวิร์ก ฟรอม โฮม 100% เพื่องดการเดินทาง แต่ภาคธุรกิจบางส่วนไม่สามารถดำเนินการได้ โดยเฉพาะพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เพราะโรงงานยังเดินเครื่องผลิตอยู่ทุกวัน แต่ภาคเอกชนจะพยายามเวิร์ก ฟรอม โฮมให้ได้มากที่สุด

“ทางการแพทย์อยากให้ล็อกดาวน์ให้ได้มากที่สุด แต่เราก็ทำได้ระดับหนึ่ง ซึ่งผมมองว่า ถ้าล็อกดาวน์เข้มข้น อาจทำให้เศรษฐกิจเสียหายมากขึ้น และการล็อกดาวร์ถ้าจะให้เกิดผล ต้องตรวจเชิงรุก แยกคนติดเชื้อออกจากคนไม่ติดเชื้อ และต้องเร่งกระจายฉีดวัคซีนให้ประชาชนโดยเร็ว”