หลายประเทศในยุโรปเตรียมล็อกดาวน์รอบ 2 หลังโควิดกลับมาระบาดหนัก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หลายประเทศในยุโรป มีผู้ติดโควิดเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทำให้หลายประเทศกำลังพิจารณามาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ ท่ามกลางข้อกังขาของประสิทธิภาพของมาตรการการรับมือ

หลังจากอังกฤษประกาศมาตรการใหม่เพื่อรับมืออย่างเข้นข้นไปเมื่อวันจันทร์ โดยเฉพาะเมืองลิเวอร์พูลที่มีอัตราการติดเชื้อสูงสุดในยุโรป ล่าสุด  รัฐบาลของสาธารณรัฐเช็กประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์บางพื้นที่ของประเทศ 3 สัปดาห์ โดยโรงเรียน, ผับ บาร์ จะถูกปิดไปจนถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน ส่วนร้านอาหารจะเปิดได้จนถึงเวลา 20:00น. และให้บริการแบบซื้อกลับบ้านและส่งอาหารถึงบ้านเท่านั้น หอพักของมหาวิทยาลัยจะถูกปิดชั่วคราว การเรียนผ่านออนไลน์ ส่วนโรงเรียนอนุบาลให้เปิดเรียนต่อไปโดยจะมีการดูแลเป็นพิเศษ 

สำหรับประชาชนต้องสวมหน้ากากเวลาอยู่ที่ป้ายรถรางและชานชาลารถไฟด้วย เพิ่มเติมจากเดิมที่ให้ใส่เวลาเข้าร้านค้า หรือใช้บริการขนส่งสาธารณะ และการรวมตัวกันไม่ว่าจะในบ้านหรือกลางแจ้ง จะถูกจำกัดไม่ให้เกิน 6 คนเท่านั้น

จนถึงตอนนี้ เช็กมียอดสะสมของผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ 125,328 ราย โดย 55,538 รายในจำนวนนี้ ถูกตรวจพบในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 1,051 ศพ ซึ่งสถิติพบผู้เสียชีวิตมากที่สุดในวันเดียวของเช็ก เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 9 ต.ค. โดยพบถึง 52 ศพ

ส่วนอิตาลี ประกาศมาตรการใหม่ให้กลับมาสวมหน้ากากแม้แต่ช่วงอยู่ในเคหะสถานหากมีแขกมาเยี่ยมเยือน และให้สวมหน้ากากขณะอยู่ที่ร้านอาหาร บาร์ ทำกิจกรรมที่โรงเรียนหรือชมกีฬา และห้ามการรวมกลุ่มเกิน 6 คน ในร้านอาหาร ผับ บาร์ หรือพื้นที่สาธารณะ จากยอดติดเชื้อใหม่เฉลี่ย 5-6 พันคนต่อวัน เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อสัปดาห์ก่อน และมาตรการนี้คล้ายกับที่เนเธอร์แลนด์และฝรั่งเศสนำกลับมาใช้

ที่ปรเทศเนเธอร์แลนด์ ใช้มาตรการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ของประเทศเช่นกัน โดยบาร์, ร้านอาหาร, และคาเฟ่กัญชา จะถูกปิดตั้งแต่คืนวันพุธนี้เป็นต้นไป และจะให้บริการซื้ออาหารกลับบ้านได้เท่านั้น ส่วนร้านขายของชำจะถูกห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่หลัง 20:00 น. ขณะที่กิจกรรมต่างของโรงเรียนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลยังขอให้ประชาชนทำงานจากที่บ้านหากเป็นไปได้ และใช้บริการขนส่งสาธารณะในกรณีจำเป็นเท่านั้น

เนเธอร์แลนด์มีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้นถึง 60% โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 44,000 ราย ภายในสัปดาห์เดียว โดยเมื่อวันอังคารพบผู้ติดเชื้อเกือบ 7,400 ราย ขณะที่นายกรัฐมนตรี มาร์ก รุตเทอร์ เตือนว่า หากผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอีก บริการปกติของโรงพยาบาลราว 75% อาจต้องถูกยกเลิก

ส่วนพื้นที่อื่นๆ ของยุโรป ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เตรียมประกาศมาตรการควบคุมโควิด-19 เพิ่มเติมในวันพุธนี้ ขณะที่สหภาพโรงพยาบาลรัฐเตือนว่า ห้องไอซียูของโรงพยาบาลในกรุงปารีสอาจจะเต็มถึง 90% ภายในสุดสัปดาห์หน้า

ขณะที่รัสเซียรายงานพบผู้ติดเชื้อเกือบ 14,000 รายในวันอังคาร ทำลายสถิติรายวันสูงสุดของประเทศ และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 244 ศพ แต่รัฐบาลยังไม่มีแผนใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ