หมอเฟาซี่ คาดหากเป็นไปตามแผนสหรัฐฯ จะยุติการแพร่ระบาดไวรัสโควิดได้ปลายปี 64 แต่เดือนมกราคมจะสาหัสสุด

  • มองโลกในแง่ดีจากวัคซีนต้านไวรัสของผู้ผลิต
  • พบผู้ฉีดมีอาการแพ้มากกว่าคาด 
  • เตรียมทดลองทางคลินิคสำหรับผู้เป็นโรคภูมิแพ้
  • ย้ำให้ใส่หน้ากา รักษาระยะห่าง รักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด
  • ขณะที่การฉีดวัคซีนยังไม่เป็นไปตามเป้าเพราะบุคลากรทางการแพทย์ไม่พอ

ดร.มอนซีฟ สเลาอิ  หัวหน้าที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของ Operation Warp Speed ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ริเริ่มโดยรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่ออำนวยความสะดวกและเร่งการพัฒนาการผลิตและการจำหน่ายวัคซีนป้องกันและการวินิจฉัยโควิด-19 กล่าวว่า อาการแพ้ต่อวัคซีนต้านโควิดของบริษัทไฟเซอร์ – ไบโอเอ็นเทคนั้นมีความถี่สูงกว่าที่คาดกันไว้

เขากล่าวว่า ล่าสุดเขาได้อัพเด็ทเกี่ยวกับการอาการแพ้ดังกล่าวเมื่อวันอังคาร (ตามเวลาสหรัฐฯ) มีผู้ป่วยจำนวน 6 รายนั้นเป็นจำนวนน้อยกว่าตัวเลขจริง และความถี่ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ดีกว่าที่เราคาดหวังจากวัคซีนอื่น ๆ ” เขากล่าว

นอกจากนี้เขาระบุว่าอยู่ระหว่างดำเนินการหารือระหว่างผู้ผลิตวัคซีนและสถาบันสุขภาพแห่งชาติเพื่อพิจารณาให้มีการทดลองทางคลินิกของวัคซีนในกลุ่มประชากรที่เป็นโรคภูมิแพ้มากเช่นผู้ที่ต้องพกยาแก้แพ้ใน EpiPen ซึ่งใช้รักษาอาการแพ้ขั้นรุนแรง

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติกล่าวว่าสหรัฐฯกำลังพิจารณาว่าเหตุใดบางคนจึงเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ไม่นาน

ขณะที่นพ.ปีเตอร์ มาร์คส ผู้อำนวยการศูนย์ประเมินและวิจัยด้านชีวภาพ ของคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า นับตั้งแต่สหรัฐฯเริ่มใช้งานวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีรายงานการเกิด “ภาวะตอบสนองด้านลบ” กับผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 5 คน หนึ่งในนั้นคือบุคลากรการแพทย์ที่รัฐอะแลสกา ซึ่งมี “อาการแพ้อย่างรุนแรง” ภายในเวลาเพียง 10 นาทีหลังได้รับวัคซีน

สมมุติฐานของเอฟดีเอยังคงพุ่งเป้าไปที่ “โพลีเอธิลีน ไกคอล” ( Polyethylene glycol ) ซึ่งเป็นสารเคมีสังเคราะห์ที่มักเป็นส่วนประกอบของยาและวัคซีนหลายชนิด อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดอาการแพ้ แต่สารเคมีเดียวกันนี้เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของวัคซีนผลิตโดยบริษัทโมเดอร์นา ที่เอฟดีเออนุมัติให้ใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉินตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ด้วย แม้ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการ ว่ามีผู้แพ้วัคซีนของโมเดอร์นา แต่นพ.มาร์คส กล่าวว่า ปฏิกิริยาตอบสนองที่เป็นผลจากโพลีเอธิลีน ไกลคอล “อาจเป็นภาวะปกติมากกว่าที่เคยเข้าใจกัน”

ทางด้าน ขณะที่ ดร.แอนโทนี่ เฟาซี่ ผู้เเชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อของสหรัฐระบุว่า หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนหลังจาชาวอเมริกันฉีดวัคซีนไปแล้ว ก็จะสามารถทิ้งการแพร่ระบาดไว้อยู่เบื้องหลังก่อนปี 2565 เขากล่าวเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่าชาวอเมริกันอย่างน้อย 75% จะได้รับการฉีดวัคซีน จากนั้นเขาได้เพิ่มตัวเลขหวังว่าใกล้ถึง 80-85%  

อย่างไรก็ตามเขาได้เตือนว่าในเดือนมกราคมที่จะถึงหลังปีใหม่นี้จะเป็นเดือนที่เลวร้านที่สุดของการแพร่ระบาดเนื่องจากเทศกาลวันหยุด เทศกาลคริสมาสต์และเทศกาลขอบคุณพระเจ้า

อย่างไรก็ตาม ปีเตอร์ แซนด์ กรรมการบริหารของกองทุนโลกเพื่อการต่อสู้ ออกมาเตือนว่า เราตาบอดเพราะมีความรู้สึกว่าได้รับการฉีดวัคซีน แต่เป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เราประเมินต่ำเกินไปว่าอุโมงค์นั้นยาวและอันตรายแค่ไหน 

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า วัคซีนต้านโควิด-19 หลายล้านโดส “ถูกทิ้ง” ไว้ตามสถานพยาบาลและสถานที่ต่าง ๆ หลังขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดวัคซีน และไม่มีจุดบริการมากพอ ทำให้อัตราการฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างล่าช้า

ก่อนหน้านี้วัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอนเท็คและวัคซีนของโมเดอร์นา ได้มีการทยอยขนส่งวัคซีนไปตามจุดให้บริการต่าง ๆ ของประเทศแล้ว

รัฐบาลของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐเคยระบุว่าต้องการจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชากร 20 ล้านคนในประเทศก่อนสิ้นปี อย่างไรก็ตามทางการรายงานว่าตอนนี้ได้มีการฉีดวัคซีนแค่เพียง 1 ล้านคน ถึงแม้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐระบุว่ามีวัคซีนที่ถูกส่งไปตามจุดให้บริการทั่วประเทศถึง 9.5 ล้านโดสแล้ว