.ทำได้ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น หมวก กระเป๋า ของใช้
.เส้นใยเหนียว คงทน รับเทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อม
.สร้างมูลค่าเพิ่มหนุนรายได้ชุมชนอย่างยั่งยืน
นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT ผลักดันเส้นใยกัญชง ซึ่งเป็นเส้นใยที่มีคุณภาพมาใช้ในงานสิ่งทอ และนำไปผลิตเป็นสินค้าแฟชันต่างๆ เช่น เสื้อผ้าแฟชัน หมวก กระเป๋า รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่สามารถนำเส้นใยกัญชงมาประดับตกแต่งให้มีความทันสมัย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และช่วยยกระดับงานศิลปหัตถกรรมไทยให้น่าสนใจมากขึ้น และสร้างรายได้ให้กับกลุ่มผู้ผลิตได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ กัญชง ได้ถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในงานศิลปหัตถกรรมไทย ประเภทงานทอผ้ามาตั้งแต่อดีต โดยเฉพาะในกลุ่มชาวม้ง ที่ใช้เส้นใยจากกัญชงมาถักทอเป็นผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสวมใส่ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากเส้นใยจากกัญชงมีคุณสมบัติที่สวมใส่สบาย ไม่ร้อน ระบายอากาศได้ดี และยังมีความเหนียว ทนทาน เมื่อเทียบกับเส้นใยธรรมชาติอื่นๆ ที่สำคัญการทอ ใช้เส้นใยจากธรรมชาติ 100% กระบวนการปลูก ไม่พึ่งพาสารเคมี ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ผ้าจากเส้นใยกัญชง เป็นงานศิลปหัตถกรรมไทยที่ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลกในปัจจุบัน
“ที่ผ่านมา ได้ผลักดันให้ผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรมไทย นำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้ผลิตชิ้นงานโดยผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งกรรมวิธีการผลิตชิ้นงานให้มีคุณภาพ ประณีต สวยงาม และที่สำคัญ ต้องสอดรับกับความต้องการของตลาดและโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะสินค้าสีเขียว การปกป้องสิ่งแวดล้อม ที่กำลังเป็นเทรนดของโลก มั่นใจว่า งานศิลปกหัตถกรรมจากเส้นใยกัญชงของไทย จะได้รับการตอบรับทั้งตลาดในและต่างประเทศ”
ด้านนายพรพล เอกอรรถพร รักษาการแทนผู้อำนวยการ SACIT กล่าวว่า จากการสำรวจ พบว่า ขณะนี้แต่ละท้องถิ่นปลูกต้นกัญชง เพื่อใช้ในงานศิลปหัตถกรรมไทยเพิ่มมากขึ้น เช่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนดาวม่าง งานผ้าใยกัญชง กลุ่มชาติพันธุ์ม้ง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยครูธัญพร ถนอมวรกุล ครูช่างศิลปหัตถกรรม ปี 64 ผู้สืบทอดภูมิปัญญาการสร้างสรรค์ผ้าเขียนเทียนใยกัญชง ซึ่งได้นำต้นกัญชงมาลอกเส้นใยและผ่านกรรมวิธีเฉพาะจนกลายเป็นผืนผ้า นำมาย้อมสีธรรมชาติ และเขียนลวดลายลงบนผืนผ้าด้วยเทียนตามแบบฉบับชาวม้ง ก่อนนำมาตัดเย็บเป็นสินค้าแฟชั่น
นอกจากนี้ ครูนวลศรี พร้อมใจ ครูช่างศิลปหัตถกรรม ปี 57 เป็นอีกท่านที่บุกเบิกนำต้นกัญชงมาใช้ประโยชน์ โดยแปรรูปให้เป็นเส้นใย ก่อนนำมาถักทอเป็นเสื้อผ้า หมวก กระเป๋า และของใช้อื่นๆ ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่ง SACIT จะช่วยผลักดันให้นำเส้นใยกัญชงมาใช้ผลิตสินค้าหัตถศิลปกรรมเพิ่มมากขึ้น และเน้นการพัฒนารูปแบบชิ้นงานให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลาย ซึ่งช่วยสร้างรายได้หมุนเวียนในชุมชนเพิ่มขึ้น
