“หญิงหน่อย” แม่ทัพไทยสร้างไทย เปิดบ้านย่านลาดปลาเค้าทำบุญวันเกิด ลั่นไม่ยอมให้เกิดการรัฐประหารอีกต่อไป



  • ชี้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการใช้เงินและอำนาจหรือMoney politicsมากที่สุด
  • มีความเสี่ยง3เรื่องเกิดการทุจริตคอร์รัปชันเสี่ยงต่อสถานะทางด้านการคลังขัดแย้งทางการเมือง
  • ลั่นการเมืองใหม่ในมิติไทยสร้างไทยคือประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมคิดร่วมทำไม่ใช่ประชาชนมีอำนาจแค่วันเลือกตั้ง

วันนี้ (1 ..66) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านลาดปลาเค้า 60 ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูป พร้อมกับผู้บริหารพรรค เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด 1 .. 2566 

ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงชีวิตการเมืองที่เข้าสู่ปีที่ 32 ทิศทางและภารกิจทางการเมืองว่า ขอขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทุกคน การมาสร้างพรรคการเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย ภายใต้กติการัฐธรรมนูญ และสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน

สงครามการเมืองสองขั้ว สร้างวิกฤตมาอย่างยาวนานกว่า 17 ปี จนเกิดการรัฐประหารถึงสองครั้ง ประชาชนพ่ายแพ้มาโดยตลอด และสงครามครั้งนี้จะเป็น Last War ของทั้งสองขั้วที่จะแพ้ไม่ได้

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนและทีมงานพรรคไทยสร้างไทย จะไม่ยอมให้เกิดการรัฐประหารอีกต่อไป เพราะตลอดชีวิตการเมืองต้องพบเจอการรัฐประหารถึง 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้เลวร้ายกว่าทุกครั้ง เพราะมีการสืบทอดอำนาจ อาทิยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี หรือ สว.เลือกนายกรัฐมนตรี 

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการใช้เงิน และอำนาจ หรือ Money politics มากที่สุด จึงมีความเสี่ยงด้วยกันอย่างคือ 

1.ความเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน 

จากการใช้เงินจากภาษีประชาชนในอนาคตมาใช้ในการเลือกตั้ง เมื่อได้รับเลือกเข้าไปในสภา จะทำให้ต้องเข้าไปถอนทุน

2. ความเสี่ยงต่อสถานะทางด้านการคลังของประเทศ ที่ทุกพรรคการเมืองต่างออกนโยบายแจกเงิน โดยไม่มีการวางแผนอย่างเป็นระบบรอบด้าน จึงไม่มีความยั่งยืน 

3. ความเสี่ยงที่จะนำมาสู่ความขัดแย้งทางการเมือง จนเป็นข้ออ้างให้เกิดการรัฐประหารอีกรอบ 

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า การเมืองใหม่ในมิติไทยสร้างไทยคือประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม คิดร่วมทำ ไม่ใช่ประชาชนมีอำนาจแค่วันลงคะแนนเลือกตั้งวันเดียว

ก้าวแรก ของการปลดล็อกวงจรอุบาทว์ออกจากประเทศไทย คือรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยการเลือกตั้ง ..คนทำรัฐประหาร คือกบฏต้องได้รับโทษสูงสุด ประชาชน และพรรคการเมือง ร่วมกันออกแบบนโยบายในการแก้ปัญหาประเทศแบบครบวงจร ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และมุ่งแก้ปัญหาจากล่างขึ้นบน สร้างวัฒนธรรมทางการเมือง ที่ทุกองค์กรต้องถูกตรวจสอบได้ และเราจะปกป้องผลประโยชน์ประชาชน จากกลุ่มนายทุนใหญ่ที่เอารัดเอาเปรียบ ผ่านการทุจริตเชิงนโยบาย” คุณหญิงสุดารัตน์