

วันที่ 21 ก.พ.2564 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำกลุ่มสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า “เร่งแก้ รธน. นำพาประเทศออกจากวิกฤติการเมือง” โดยมีรายละเอียดคือ
แม้รัฐบาลจะได้รับความไว้วางใจท่วมท้นสภา แต่นั่นก็เป็นไปด้วยเล่ห์กลการเมืองที่ถูกวางมา เพื่อสืบทอดอำนาจ
ตั้งแต่การมี สว. มาเลือกนายกแทนประชาชนทั้งการซื้อตัวงูเห่าและการยุบพรรคการเมือง จนมีเสียงเหนือในสภา
นาทีนี้ความเสื่อมศรัทธาต่อรัฐบาลกลับเพิ่มพูน เพราะมีหลายคำถามที่รัฐมนตรีตอบไม่ได้ หรือหากลุกขึ้นตอบ ก็เป็นเพียงการตอบแบบลอยลมให้เรื่องจบสิ้นไป
ทว่าที่เป็นตลกร้ายที่สุด คือการลุกขึ้นโต้ของพี่ใหญ่ 3 ป. ด้วยประโยคสั้นๆ ว่า “ผมได้ฟังการอภิปรายของท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติแล้ว ผมว่าท่าน พูดทั้งหมดนั้น ไม่เป็นความจริงเลยนะครับ ขอบคุณครับ” แล้วเดินจากไป ราวกับไม่ให้ค่าระบบตรวจสอบถ่วงดุลในสภาผู้แทนราษฎร
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ระบบตรวจสอบถ่วงดุลมาถึงจุดล้มเหลว นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้งหลายลุแก่อำนาจ ไม่ให้ค่ากับการชี้แจงข้อเท็จจริงให้ ส.ส. ที่เป็นผู้ตัวแทนของพี่น้องประชาชนได้รับความกระจ่าง ในข้อครหาต่างๆ เพราะมั่นใจว่าจะมีมือในสภาที่ได้จากการเพาะฟาร์มงูเห่า และการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ รวมไปถึงการควบคุมองค์กรอิสระให้สามารถปกป้องตัวเองจะช่วยให้รอดในทุกสถานการณ์ และกุมอำนาจต่อไปได้อยู่เสมอ
ขณะที่ผู้มีอำนาจ กลับยิ่งดึงดันรักษาอำนาจตัวเอง ด้วยการถ่วงเวลา การแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ต่อการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
ประเทศไทยสูญเสียโอกาสมามากพอแล้ว #คนตัวเล็ก บอบช้ำกับ สภาพเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตย่ำแย่มานานแล้ว เพราะมีรัฐบาลที่ลุแก่อำนาจ ไม่ฟังความทุกข์ และไม่เคารพสิทธิของพี่น้องประชาชน รวมทั้งไร้ประสิทธิภาพ ในการบริหารประเทศ
ดิฉันและ #กลุ่มสร้างไทย เห็นว่า สถานการณ์เช่นนี้ ยิ่งจำเป็นต้องผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้มี #รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นเครื่องมือในการ แก้ไขความทุกข์ให้กับประชาชน และตัดวงจรการสืบทอดอำนาจ
พวกเรา #ทีมสร้างไทย ขอเรียกร้องทุกฝ่าย ไปจนถึงศาลรัฐธรรมนูญ ได้มาร่วมกันสร้างอนาคตที่ดี ให้กับพี่น้องคนไทย และร่วมกันนำพาประเทศออกจากวิกฤติการเมืองครั้งนี้ ด้วยการสนับสนุนให้เกิด รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้ได้เร็วที่สุด”