ส.อ.ท. เผยดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม ก.พ.วูบ อยู่ที่ระดับ 86.7 ชี้ลดลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เสนอ 4 ข้อ รัฐช่วยด่วน!



  • เผยเดือน ม.ค.65 ความเชื่อมั่น อยู่ที่ระดับ 88.0 
  • ชี้ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวล ราคาน้ำมันนำมาที่หนึ่ง 
  • เรื่องสถานการณ์ระบาดของโควิด กังวลเป็นอันดับ 2 เศรษฐกิจในประเทศ และสภาวะเศรษฐกิจโลก ตามลำดับ
  • เสนอรัฐเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข ยกเลิกมาตรการ Test & Go
  • ออกมาตรการดูแลราคาพลังงาน-ตั้งคณะทำงานร่วมรัฐ-เอกชน ประเมินวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ว่า อยู่ที่ระดับ 86.7 ปรับตัวลดลงจากระดับ 88.0 ในเดือนมกราคม โดยองค์ประกอบที่ดัชนีฯปรับตัวลดลงทุกรายการทั้งคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลกระกอบการ โดยด่าดัชนีฯ ปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ภาครัฐต้องดำเนินการยกระดับการเตือนภัยโรคโควิด-19 จากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ทั่วประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และอุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังเผชิญปัญหาต้นทุนการผลิตสินค้าปรับตัวสูงขึ้น จากราคาวัตถุดิบราคาพลังงานที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงตามทิศทางราคาตลาดโลก รวมถึงต้นทุนค่าขนส่งสินค้าและการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที)

สำหรับในด้านการส่งออกผู้ประกอบการ ก็ต้องเผชิญกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ที่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้านำเข้า ขณะที่ปัญหา Supply Disruption ที่ยังไม่คลี่คลาย นอกจากนี้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างรัสเซียและยูเครนก็ส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าโลกมีความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตามในเดือนกุมภาพันธ์ ยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐผ่านโครงการคนละครึ่งเฟส 4 และการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนบางส่วน

นายสุพันธุ์ กล่าวด้วยว่า จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,242 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 พบว่า ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้นได้แก่ ราคาน้ำมัน 75.2% สถานการณ์ระบาดของโควิด 68.5% เศรษฐกิจในประเทศ 56.8% สภาวะเศรษฐกิจโลก 52.3% อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ร้อยละ 48.3 สถานการณ์การเมืองในประเทศร้อยละ 45.5 และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 45.6 ตามลำดับ

สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 97.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 96.4 ในเดือนมกราคม ผู้ประกอบการเห็นว่าการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ไม่รุนแรงเหมือนช่วงก่อนหน้า กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไปได้ขณะที่ภาคการผลิตทั่วโลกยังคงขยายตัวส่งผลดีต่อภาคการส่งออกของไทย นอกจากนี้การผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศตามนโยบายTest & Go ช่วยเอื้อต่อการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทาง ส.อ.ท. ยังได้มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ 4 ข้อ ประกอบด้วย

1.เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน อาทิ การสำรองยาให้เพียงพอ บริหารจัดการเตียงรองรับผู้ป่วยวิกฤต สนับสนุนยาและสิ่งของจำเป็นในการกักตัว Home Isolation เพิ่มจำนวนโรงพยาบาลสนาม/ศูนย์พักคอย และการแจกชุดตรวจ ATK ให้กับกลุ่มเสี่ยง

2.ยกเลิกมาตรการ Test & Go โดยให้ผู้เดินทางเข้าประเทศแสดงวัคซีนพาสปอร์ตแทนก่อนเข้าประเทศ พร้อมทั้งจัดให้มีระบบตรวจติดตามผู้เดินทางเข้าประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และเสริมสร้างบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวของไทย

3.ออกมาตรการดูแลราคาพลังงาน อาทิ การตรึงราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาก๊าซ และการคงค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม

4.ขอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐ-เอกชน เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนรวมทั้งหามาตรการบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการด้านการค้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลเพื่อให้ภาคเอกชนนำไปวางแผนการค้าหรือแสวงหาโอกาสทางค้าในตลาดที่มีศักยภาพ