ส.อ.ท. ขอโหวตนายกฯราบรื่น ลั่น ‘โอมเพี้ยง’ กังวล 4 เรื่องด่วน ขอรัฐบาลใหม่เร่งแก้ปัญหา ชี้ “ทักษิณ” กลับบ้านเพราะพร้อมแล้ว
- เร่งตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.)
- ตั้งทีมเศรษฐกิจเลือกคนเก่ง
- มีศักยภาพ ทำงานได้จริง
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งไทย(ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมรัฐสภากำหนดโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 22 สิงหาคม ว่า เวลานี้คงต้องเอ่ยว่า “โอมเพี้ยง!! ขอให้ทุกอย่างราบรื่น” ได้นายกรัฐมนตรีตามขั้นตอน กระบวนการที่วางไว้ ไม่อยากใช้คำว่า ลุ้น คำว่าระทึก เพราะอยากให้เป็นเรื่องราวที่ดีของประเทศไทย หลังเฝ้ารอมานานกว่า 3 เดือนหลังการเลือกตั้งจบลง แต่ไม่สามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้ในการประชุมรัฐสภา 2 ครั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้ควรสำเร็จเพื่อให้ประเทศไทยไปต่อ ไม่เสียโอกาสไปมากกว่านี้
เวลานี้ปัญหาเศรษฐกิจคือประเด็นเร่งด่วน เป็นปัญหาหลัก ทั้งจากปัจจัยโลกและปัจจัยในประเทศ เมื่อได้นายกรัฐมนตรีแล้ว ต้องเร่งตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ตั้งทีมเศรษฐกิจเลือกคนเก่ง มีศักยภาพ ทำงานได้จริง และทำงานอย่างมีเสถียรภาพ หากแต่ละกระทรวงมาจากพรรคเดียวกันจะยิ่งคล่องตัว แต่หากจำเป็นต้องมาจากต่างพรรคตามโควต้าพรรคร่วมรัฐบาลก็อยากให้เน้นการทำงานเข้าขา เพราะบางรายแม้เก่งแต่ทำงานขัดแย้งกันก็ไม่เหมาะ อยากให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว
ประเทศไทยมี 4 โจทย์ที่แก้ปัญหา ประกอบด้วย 1.เร่งจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วและออกนโยบายฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ โดยเน้นย้ำว่าการช่วยลดภาระของประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนมากที่สุด 2.เร่งออกมาตรการบรรเทาผลกระทบจากภาระต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินและลดความเสี่ยงการเป็นหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ซึ่งภาระที่เพิ่มขึ้น ทำให้เห็นการยึดรถยนต์ส่วนบุคคลมากเป็นประวัติการณ์ รวมถึงยังเห็นผลกระทบของการผ่อนบ้านที่อาจเริ่มไม่ไหวกันแล้ว
3.ขอให้ใช้กลไกของทูตพาณิชย์ในการเจรจาเร่งจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟไอเอ) และลดปัญหาทั้งอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี และมาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าแบบมุ่งเป้าไปยังกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ อาทิ ตะวันออกกลาง 6 ประเทศ (จีซีซี) ซาอุฯ ละตินอเมริกา เอเชียใต้ และอินเดีย ถือเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมาก เพื่อขยายตลาดการค้าและขยายฐานการส่งออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มที่เป็นประเทศฐานลูกค้าของไทยในปัจจุบันไม่ดีหมด อยู่ในภาวะเปราะบาง จึงจะเป็นต้องรีบเร่งในการหาตลาดใหม่
และ 4.ขอให้ภาครัฐเร่งดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะโครงการลงทุนต่างๆ ที่ยังค้างท่อ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะปีนี้การส่งออกคงไม่ได้ดีมากนัก แม้มีภาคการท่องเที่ยวเข้ามาช่วยขับเคลื่อนให้เดินหน้าไปได้ก็ตาม แต่ยังต้องอาศัยการเบิกจ่ายของรัฐที่ค้างท่ออยู่ เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือของปีนี้เพิ่มเติม
นายเกรียงไกร กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมเดินทางกลับประเทศไทยวันที่ 22 สิงหาคม เวลา 9.00 น. ที่สนามบินดอนเมืองว่า คงมาจากความพร้อมของนายทักษิณที่จัดการธุระต่างๆ และพร้อมกลับมาประเทศไทย หลังจากนี้เชื่อว่าจะเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายของไทย
