

- ชี้จะช่วยจำนวนเป็น 6 ล้านคน
- สร้างรายได้ 312,000 ล้านบาท
นายวิชิต ประกอบโกศล รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เปิดเผยว่า อยากให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มเติมว่าในไตรมาส 4 เดือนต.ค.-ธ.ค.2564 หลังทำแซนด์บ๊อกภูเก็ตจบแล้ว ที่รัฐบาลจะให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีน เที่ยวในพื้นที่นำร่อง 6 จังหวัดไม่ต้องกักตัว ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่ นั้นควรจะเพิ่มเติมพื้นที่กรุงเทพมหานครลงไปด้วย โดยเริ่มวันที่ 1 ต.ค. 2564 เพื่อให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไปถึง 6 ล้านคน ใกล้เคียงกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาตั้งเป้าไว้ 6.5 ล้านคน
“ในเดือนก.ค.-ธ.ค.คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว 2 ล้านคนเข้าไปที่ภูเก็ต และไปที่พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ พังงาเกาะสมุย อีก 1 ล้านคน รวมเป็น 3 ล้านคน สร้างรายได้ 156,000 ล้านบาท แต่ถ้าตั้งแต่ 1 ต.ค.2564 เพิ่มกรุงเทพฯเป็นพื้นที่นำร่องด้วย และสถานการณ์ดีขึ้นก็มีโอกาสที่จะเพิ่มได้อีก 3 ล้านคน รวมเป็น 6 ล้านคน รวมรายได้ 312,000 ล้านบาท เพราะต้องเข้าใจว่ากรุงเทพฯเป็นจุดที่มีเครื่องบินลงและให้นักท่องเที่ยวกระจายไปเมืองอื่น ซึ่ง 3 ล้านคนที่เพิ่มขึ้นมาจะสร้างรายได้อีก 156,000 ล้านบาท เท่ากับเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีได้อีก 1% ซึ่งในช่วงเดือนต.ค.เชื่อว่าคนทั่วโลกจะฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นมาก โดยจากนี้ไป 3 เดือนถึงก.ค.จะมีคนฉีดวัคซีน 1,500 ล้านคน และคาดว่าในสิ้นปีทั่วโลกจะฉีดวัคซีน 4,000 ล้านคน เกิดครึ่งของประชากรโลกที่มี 7,000 ล้านคน”
ทั้งนี้ตามที่รัฐบาลวางโรดแมปการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้ว เริ่มจากเดือนเม.ย.-มิ.ย.2564 ที่จะนำร่องไม่ต้องกักตัวในห้อง โดยให้ออกมาอยู่บริเวณโรงแรม 0+7 วัน และเที่ยวในเส้นทางจำกัดหรือซีลได้ (Sealed route) ในช่วงนี้ถือ อาจจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 50,000-100,000 คน แม้ไม่มากแต่ดีกว่าที่ผ่านมา สิ่งที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวตั้งความหวังมาก ถือเป็นข่าวดีของวงการท่องเที่ยว คือช่วงไตรมาส 3 เดือน ที่ทำพื้นที่ทดลองหรือแซนด์บ๊อกภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1ก.ค.-31ก.ย. ที่เข้ามาเที่ยวภูเก็ตได้ไม่ต้องกักตัว เมื่อครบ 7 วันถึงไปพื้นที่อื่นได้
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมรายงานในที่ประชุมครม. ถึงแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว และมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ โดยจะเริ่มนำร่องตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้ ที่จังหวัดภูเก็ตก่อน เบื้องต้นประเมินว่า ในช่วงเวลา 3 เดือน คือ เม.ย.-มิ.ย.64 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยได้ 100,000 คน และหลังจากนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ จะขยายจังหวัดนำร่องเพิ่มไปยังจังหวัดกระบี่ พังงา เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี พัทยา และเชียงใหม่ ส่งผลให้ทั้งปีประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้ตามเป้าหมาย 6.5 ล้านคน
“การกักตัวจะไม่มีแล้วในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่องที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนเม.ย.นี้ เป็นต้นไป และเรื่องที่จะต้องเร่งทำต่อคือ การจัดหาวัคซีนมาให้กับจังหวัดนำร่องให้ได้ตามแผน โดยจังหวัดภูเก็ตต้องการประมาณ 925,000 โดส ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กำลังประสานกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอให้จัดหาวัคซีนให้ได้มากที่สุด”