ส่องนโยบายด้านเศรษฐกิจ 7 พรรคการเมือง

  • เปิดนโยบายด้านเศรษฐกิจ 7 พรรคการเมือง รวบรวมโดย : The Journalist Club
ช่วงนี้พรรคการเมืองต่างหาเสียง ชูนโยบายไปคนละทิศละทาง สร้างความสับสนให้ประชาชนอย่างเราๆท่านๆ ว่านโยบายไหนเป็นของใครกันแน่ The journalist Club จึงได้เข้าไปส่องเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพรรคการเมืองที่มีแสงสปอร์ตไลท์ส่องถึง 7 พรรค โดยได้คัดนโยบายด้านเศรษฐกิจของแต่ละพรรคมารวบรวมไว้ให้ท่านได้ศึกษาและบันทึกจดจำไว้เผื่อพรรคนั้นได้เป็นรัฐบาล เราจะได้ทวงถามกันถูก เริ่มต้นกันที่…

นโยบายเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย : คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน

นโยบายแรงงาน
-เติมเงินให้ทุกคนระบบ ใช้จ่ายใกล้บ้านผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล(Digital Wallet) เติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้ทุกคน ใช้จ่ายใกล้บ้าน 4 กิโลเมตร
-ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินเดือนคนจบปริญญาตรีเริ่มต้นที่ 25,000 บาทต่อเดือน ภายในปี พ.ศ. 2570
-ทุกครอบครัว มีรายได้ ไม่น้อยกว่า 20,000 บาท / เดือน ลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม Learn to Earn เพื่อเสริมทักษะและหางาน

นโยบายสร้างประเทศด้วยนวัตกรรมและดิจิทัลผ่านเขตธุรกิจใหม่ (New Business Zone)
-สร้างเขตธุรกิจใหม่ 4 แห่งเป็นพื้นที่นำร่อง ได้แก่ กรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่
-ขับเคลื่อน Start-ups และ SMEs สู่การสร้างรายได้ใหม่ให้แก่ประชาชน ด้วยกุญแจ 3 ดอก คือ กุญแจดอกที่ 1 “กฎหมายธุรกิจชุดใหม่” กุญแจดอกที่ 2 “สิทธิประโยชน์ใหม่” กุญแจดอกที่ 3 “ระบบนิเวศทางธุรกิจใหม่”

ระบบคมนาคม
-รถไฟฟ้า กทม. 20 บาทตลอดสาย ติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้รถไฟชั้นสามทุกขบวน ยกระดับรถไฟโดยสารทั่วประเทศให้สามารถเป็นการเดินทางแบบไปกลับประจำ (Commute) ได้อย่างแท้จริง
-สร้างระบบ Feeder ที่สะดวกสบายเชื่อมโยงแต่ละ Hub ยกตัวอย่างเช่น เส้นทาง นครราชสีมา-กรุงเทพฯ และเพิ่มความเร็วให้ได้เป็น 200 km/h
-เร่งการเชื่อมโยงรถไฟขนส่งสินค้า จากลาวเข้าสู่ท่าเรือแหลมฉบัง และสนามบินสุวรรณภูมิ
-เชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ เป็นการเชื่อมต่อเพื่อเพิ่มปริมาณทั้งด้านการค้าและการท่องเที่ยวกับจีนและประเทศในอาเซียน เส้นทางรถไฟดังกล่าวยังเชื่อมต่อกับเส้นทางสายไหมใหม่ (Silk Road Economic Belt) ซึ่งเป็นประตูไปยังเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง รัสเซีย และยุโรป

นโยบายเพิ่มรายได้เกษตร
-รายได้ของเกษตรกรจะเพิ่มเป็น 3 เท่าภายในปี 2570 จากรายได้เฉลี่ย 10,000 บาท/ไร่/ปี เพิ่มเป็น 30,000 บาท/ไร่/ปี
-นำนวัตกรรมการเกษตรมาเพิ่มปริมาณผลผลิต และลดต้นทุนการผลิต
-ดำเนินการพักหนี้เกษตรกรทั้งต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 ปี
-การผ่าตัดภาคเกษตรเริ่มที่การ “เพิ่มอุปสงค์และปรับอุปทานภาคการเกษตร”

การท่องเที่ยว
-เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวที่พึ่งเริ่มฟื้นตัวหลัง COVID19 จากประมาณ 7 แสนล้านบาท ในปี 2565 เป็น 3 ล้านล้านบาทในปี 2570
-วางตัวให้เป็น “Festival Hub of Asia” โดยการสร้างเทศกาลไทยให้ไปถึงระดับโลก
-เน้นการสร้างประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและเสน่ห์ความเป็นไทยให้ได้มากที่สุด
-พัฒนาประเทศไทยให้เป็น Regional transport hub จัดตารางการบินให้เชื่อมต่อสายการบินเพื่อให้สายการบินจากทั่วโลกมาต่อเครื่องที่ไทย
-ยกระดับสนามบินนานาชาติให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวจำนวน 120 ล้านคนและปริมาณการขนส่งสินค้า cargo จำนวน 3 ล้านตันภายในปี 2570
-เร่งพัฒนาการจัดการอำนวยความสะดวกในทุกๆด้าน ลดกระบวนการการตรวจเอกสารให้สะดวกรวดเร็ว คิวไม่ยาว กระเป๋าไม่หาย ไม่โดนแท๊กซี่โกง
-เจรจากับประเทศต่างๆ เพื่อปลดภาระในการขอวีซ่าเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและยกระดับหนังสือเดินทางไทยให้สามารถเดินทางไปทั่วโลก
-ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางด้านการแพทย์และสุขภาพมุ่งทำให้ประเทศไทยเป็น “Wellness Destination” ของเอเชีย

พลังงาน
-ปรับลดราคาพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซ ทันทีเพื่อลดภาระในการเข้าถึงแหล่งพลังงานในชีวิตประจำวันให้ประชาชน
-เร่งเจรจาพื้นที่ทับซ้อนเพื่อเพิ่มแหล่งก๊าซธรรมชาติที่มีราคาถูกและสามารถสร้างรายได้ให้ภาครัฐจากค่าภาคหลวง
-สนับสนุนพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือกเพื่อลดการพึ่งพิงพลังงานแบบดั้งเดิม เพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นโยบายการบริหารจัดการน้ำ
-เร่งรัดเพิ่มพื้นที่ชลประทานจาก 35 ล้านไร่ เป็น50 ล้านไร่ หรือ 40% ภายในปี 2570
-ยึดหลักการ “น้ำต้องมีที่อยู่ที่ไป” หรือ Rooms for the River
-บริหารจัดการน้ำทำเป็นลำดับจากต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำให้เชื่อมต่อกัน สร้างทางระบายน้ำลงสู่ทะเล (Floodways) และช่องเชื่อมท่อทางน้ำหลักเพื่อการกระจายน้ำ (Flood Canal) สร้างเขื่อน ฝ่าย และแก้มลิง เพื่อเก็บน้ำหรือชะลอการไหลของน้ำในพื้นที่เหมาะสม
-ปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำ
-ใช้ระบบน้ำใต้ดินทั้งบ่อตื้นและบ่อลึกเพื่อให้ประชาชนทุกครัวเรือนมีน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคพรี
-สนับสนุนให้ชุมชน และเกษตรกรรายครัวเรือนจัดทำแหล่งเก็บน้ำขนาดย่อม

….โปรดติดตามพรรคต่อไป