

- ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากเดือนธ.ค.ที่โต 4.7%
- พาณิชย์ลั่นอานิสงส์เศรษฐกิจโลกฟื้น-วัคซีนต้านโควิด
- ทั้งปีถ้าส่งออกได้เดือนละ 2 หมื่นล้านเหรียญฯเชื่อโต 4% แน่
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนม.ค.64 ว่า การส่งออกมีมูลค่า 19,706.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.35% จากเดือนม.ค.63 ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 นับจากเดือนธ.ค.63 ที่เพิ่มขึ้น 4.71% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 587,374 ล้านบาท ลดลง 0.09% อย่างไรก็ตาม หากหักมูลค่าส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและทองคำ ที่มีความผันผวนด้านราคาสูง รวมถึงอาวุธยุทธปัจจัย ออก มูลค่าจะขยายตัวสูงถึง 7.57% ส่วนการนำเข้า 19,909.0 ล้านเหรียญฯ ลดลง 5.24% คิดเป็นเงินบาทมูค่า 601,897 ล้านบาท ลดลง 5.70% แต่การนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบไม่ได้ลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกในอนาคต และขาดดุลการค้า 202.4 ล้านเหรียญฯ หรือขาดดุล 14,523 ล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้การส่งออกฟื้นตัว มาจากเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระตุ้นกำลังซื้อ และประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19 ที่เริ่มเห็นผลชัดเจน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นกลับมา และกิจกรรมทางเศรษฐกิจดีขึ้น ขณะที่สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ฟื้นตัวดี โดยสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่มขึ้น 3.7% สินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 0.9% รวมถึงตลาดส่งออกหลายตลาดเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น

“ แนวโน้มการส่งออกคาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง และวัคซีนโควิด-19 ช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมา โดยหากส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 20,093 ล้านเหรียญฯ จะทำให้ทั้งปีบวกได้ 4% จากปี 63 คิดเป็นมูลค่า 241,116 ล้านเหรียญฯ แต่ยังต้องระวังปัจจัยกดดัน ทั้งการระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่ ปัญหาด้านการขนส่งระหว่างประเทศและการขาดแคลนตู้สินค้า และเงินบาทแข็งค่า”
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นข่าวดีที่การส่งออกของไทยเป็นบวกต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อกัน ถือว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดตั้งแต่เดือนพ.ค.63 และกราฟกำลังสูงขึ้น โดยเฉพาะตัวเลขการส่งออกเดือนม.ค.64 เป็นบวก 0.35% และถ้าหักน้ำมัน ทองคำและยุทธปัจจัยออก จะบวกสูงถึง 7.57% เป็นการโตต่อเนื่องจากเดือนธ.ค.63 ที่เป็นบวก 4.71%

ส่วนการประท้วงในเมียนมา การส่งออกของไทยยังไม่ได้รับผลกระทบในกรณีการส่งสินค้าข้ามแดนไม่ว่าจะเป็นที่ด่านระนอง ด่านพุน้ำร้อน หรือด่านเจดีย์สามองค์ ที่กาญจนบุรี ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ก.พ. สถานการณ์ยังปกติ ยกเว้นที่ด่านแม่สาย ท่าขี้เหล็ก จุดเดียวที่มีการชุมนุมของผู้ชุมนุมในฝั่งเมียนมา การขับรถข้ามแดนส่งสินค้าอาจชะลอตัวบ้าง แต่เนื่องจากผู้ส่งออกไทยคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าแล้ว จึงได้เร่งส่งสินค้าข้ามแดนในช่วงเช้าไปได้จำนวนมาก ได้ ในภาพรวมยังถือว่า ยังอยู่ในสถานการณ์ปกติ
