ส่งออกก.พ.64 กลับมาติดลบอีกครั้งในรอบ 2 เดือน



  • หลังราคาทองคำโลกดิ่งทำส่งออกทองคำวูบ 93%  
  • แต่เห็นสัญญาณฟื้นชัดเจนไตรมาส 2 เป็นต้นไป 
  • มั่นใจทั้งปี 64 มูลค่าส่งออกโตไม่ต่ำกว่า 4% แน่  

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า  เดือนก.พ.64 การส่งออกของไทยมีมูลค่า 20,219 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 2.59% เทียบกับเดือนก.พ.63 เป็นการกลับมาหดตัวอีกครั้ง หลังจากเพิ่งขยายตัวเป็นบวกได้ 2 เดือนติดต่อกันก่อนหน้านี้ แม้หดตัว แต่ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจและเป็นสัญญาณดี เพราะมูลค่าเกิน 20,000 ล้านเหรียญฯ แต่เมื่อหักมูลค่าส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน และทองคำ ซึ่งมีราคาผันผวนออกแล้ว มูลค่าส่งออกขยายตัวสูงถึง  5.15% ขณะที่เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 601,507 ล้านบาท ลดลง 3.87%  ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 20,211.8 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 21.99% โดยเกินดุลการค้า 7.2 ล้านเหรียญสหรัฐ  

ขณะที่ยอดส่งออกรวม 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) ปี 64 มีมูลค่า 39,925.6 ล้านเหรียญฯ ลดลง 1.16% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 63 ส่วนการนำเข้ามูลค่า 40,120.7 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 6.77% และขาดดุลการค้า 195.2 ล้านเหรียญฯ สำหรับปัจจัยที่ทำให้การส่งออกในเดือนก.พ.64 ลดลง มาจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ลดลง 4% โดยหดตัวอีกครั้งในรอบ 3 เดือน แต่ไม่น่าห่วง เพราะยอดส่งออกที่ลดลงมาจากแรงฉุดของการส่งออกทองคำที่ลดลงถึง 93%

“แนวโน้มการส่งออกในเดือนมี.ค.64 คาดว่าจะยังดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ฐานปีก่อนเดือนมี.ค.63 มีมูลค่าส่งออกสูงถึง 22,330.4 ล้านเหรียญฯ เพราะตอนนั้นส่งออกทองคำและอากาศยานมูค่าสูงมาก ทำให้ไตรมาสแรกปีนี้ตัวเลขน่าจะยังติดลบเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 63  แต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวของการส่งออก โดยเฉาะตั้งแต่เดือนพ.ค. และมิ.ย. ซึ่งทำให้ทั้งปี ยังมั่นใจว่า จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 4%” 

สำหรับปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการส่งออก มาจากการกระจายวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพในหลายภูมิภาค ทำให้ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของคู่ค้าสูงขึ้น, สหรัฐฯ กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้คนอเมริกัน และหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก, ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นแตะระดับ 60 เหรียญฯต่อบาร์เรล ส่งผลบวกต่อสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง และค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยดีขึ้น

นายภูสิต กล่าวต่อถึงสถานการณ์ในเมียนมาว่า ขณะนี้ เริ่มเห็นสัญญาณการส่งออกลดลงมาก เพราะเดือนก.พ.64 ไทยส่งออกไปเมียนมาลดลงถึงเกือบ 30% ดังนั้น วันที่ 26 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมวอร์รูม กรอ.พาณิชย์ (คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกระทรวงพาณิชย์) โดยจะเชิญนักธุรกิจไทยที่ทำการค้า และลงทุนในเมียนมา มาสอบถามถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมถึงปัญหา อุปสรรค และสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือในการบรรเทาผลกระทบด้วย