“สุวรรณภูมิ” เปิดแผนรับสงกรานต์วันละ 844 เที่ยวบิน 1.5 แสนคนเพิ่มชุดใหญ่ 4 บริการ-ลั่น SAT-1 เปิดก.ย.นี้4 บิ๊กแอร์ไลน์จองใช้แล้ว



  • บิ๊กสุวรรณภูมิเตรียมแผนรับมือวันหยุดยาวสงกรานต์9-18เม..เที่ยวบินต่างประเทศและไทยคึกคักวันละกว่า844เที่ยวผู้โดยสารเฉียด1.5แสนคน/วัน
  • ถกแอร์ไลน์สเร่งเพิ่มบริการ 4 เรื่อง “เพิ่มเคาน์เตอร์เช็คอิน-จัดทีมเสริมทัพเคลียร์คิวยาว-ระดมแท็กซี่ประจำการ 4,000 คัน-จอดรถฟรีโซนC”
  • แนะใช้ออโต้เช็คอินทั้งตั๋วและกระเป๋า ยันอาคารหลังใหม่ SAT-1 เปิดแน่ ก.ย.66 ตอนนี้บิ๊ก 4 แอร์ไลน์สจองใช้แล้วทั้ง เอมิเรตส์ กาตาร์แอร์เวย์ส เอทิฮัด แอร์เอเชียเอ็กซ์

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า สถานการณ์ตารางบินฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่ 26 มีนาคม –ปลายเดือนตุลาคม 2566 ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะช่วงฤดูเดินทางหน้าแน่นระยะสั้น  เทศกาลวันหยุดสงกรานต์ 9-18 เมษายน 2566 มีวันละ 844 เที่ยวบิน สูงกว่าปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน แบ่งเป็น “เที่ยวบินระหว่างประเทศ” วันละ583 เที่ยวในประเทศ วันละ 255 เที่ยว แต่ต้องเผชิญความท้าทายเรื่อง “บริการภาคพื้นในสุวรรณภูมิ” ยังมีไม่เพียงพอต้องรอให้ผู้รับผิดชอบ 2 บริษัท คือ บมจ.การบินไทย กับ บมจ.บางกอก ไฟลต์ เซอร์วิสเซส (BFS) แก้ปัญหาโดยเร็วด้วยการเปิดรับสมัครพนักงานเข้ามาปฏิบัติให้เพียงพอกับปริมาณผู้โดยสารซึ่งเพิ่มขึ้นทุกวัน

แนวโน้มจะมี “จำนวนผู้โดยสาร” ช่วงสงกรานต์ปีนี้แต่ละวัน ประกอบด้วย “ผู้โดยสารระหว่างประเทศ” แบ่งเป็น ขาเข้า 55,000 คน ขาออกอีก 55,000 คน และ “ในประเทศ” กว่าวันละ 36,000 คน ทำให้สนามบินสุวรรณภูมิจะมีคนเดินทางผ่านเข้าออกวันละเกือบ 150,000 คน ใกล้เคียงสถานการณ์ปกติซึ่งมีเฉลี่ยประมาณวันละ 200,000 คน

ล่าสุดทางสนามบินสุวรรณภูมิได้ร่วมประชุมกับสายการบินต่าง  เตรียมแผนรับมือสงกรานต์” ไว้แล้วคาดแนวโน้มจะมีผู้โดยสารใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินระหว่างประเทศจะมีประมาณวันละ 589 เที่ยว ภายในประเทศอีก 255 เที่ยว ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวก และบุคลากร มีเพียงพอรองรับผู้โดยสารอย่างแน่นอน

โดยเตรียมบริการอย่างเพียงพอ 4 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 เคาน์เตอร์เช็คอินตั๋วโดยสาร ซึ่งทางสายการบินจะขอเพิ่มจากเป็น 8 เคาน์เตอร์ เรื่องที่ 2 จัดเตรียมพนักงานพร้อมเข้าปฏิบัติหน้าที่ทันทีเมื่อมีผู้โดยสารเข้าคิวรอเช็คอินยาวเกินกว่าปกติ เรื่องที่ 3 บริการรถแท็กซี่สนามบินออกนอกเมืองมากถึง 4,000 คัน ไปตามเส้นทางต่างๆ  ตอนนี้พร้อมมากหลังจากก่อนหน้านี้กลับภูมิลำเนาไปเพราะโควิด-19 และจะยังไม่กลับบ้านต่างจังหวัดช่วงสงกรานต์ เรื่องที่ 4 จัดเตรียมลานจอดรถฟรีที่ลานจอดโซน C ซึ่งนำรถยนต์ส่วนตัวไปจอดแล้วนั่งรถชัตเติลบัสมายังอาคารสนามบินได้ตลอดทั้งวัน

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ประจำตามเคาน์เตอร์ที่จะให้บริการนักเดินทางต่างชาตินั้น ล่าสุดทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งกำลังเสริมมาเพิ่มจากทางเหนือ ใต้ ขั้นต่ำมาแล้ว 120 นายเข้าประจำทางในสุวรรณภูมิทางฝั่งทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งยังคงมีความเชื่อมั่นเรื่องการบริหารจัดการระบายนักท่องเที่ยวเข้าออกสนามบินได้โดยไม่มีเกิดปัญหาแออัดคิวยาวเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งทุกฝ่ายพยายามหาทางออกและวางแผนรองรับตลอดเทศกาลสงกรานต์ ขณะนี้เคาน์เตอร์ ตม.ทางสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มช่องตรวจไว้มากเป็นพิเศษ ขาดแต่พียงเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเสริมในแต่ละช่วงเพื่อให้ทุกคนเดินทางอย่างสะดวกมากที่สุด

ขณะเดียวกันทางสุวรรณภูมิขอแนะนำบริการใหม่ “เครื่องตรวจอัตโนมัติ Auto Check in” ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนใช้แล้วรวม 22 สายการบิน ทั้งการเช็คอินอัตโนมัติตั๋วโดยสารและสัมภาระกระเป๋า โดยได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ยืนประจำคอยให้คำแนะนำความช่วยเหลือผู้โดยสารที่เข้าไปบริการอุปกรณ์ดังกล่าว อันเป็นเทคโนโลยีสามารถสร้างความสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องรอคิดยาว

สำหรับ “ร้านค้า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม” ในสนามบินก็เปิดบริการแล้วเกือบ 100 % โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณโซนขาเข้าระหว่างประเทศ ร้านจำหน่ายสินค้าดิวตี้ฟรีได้ปรับโฉมใหม่ เช่นเดียวกับร้านอาหารและเครื่องดื่ม ก็ขยายแบรนด์ต่าง  มากมาย เพื่อสร้างความหลากหลายแก่ผู้โดยสารทุกคน

ทางสุวรรณภูมิขอความร่วมมือตลอดการเดินทางวันหยุดยาวสงกรานต์ 9-18 เมษายน 2566 ให้ผู้โดยสารทุกคนทุกเที่ยวบิน เผื่อเวลาเดินทางมายังสนามบิน เพราะบนท้องถนนอาจจะมีปริมาณจราจรหนาแน่น เผื่อเวลาไว้จะได้มาถึงทันเวที แล้วพอมาถึงทางเจ้าหน้าที่สุวรรณภูมิเองพร้อมจะดูแลอำนวยความสะดวกภายในสนามบินอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้ใช้บริการทุกคนเดินทางอย่างรวดเร็ว ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

นายกิตติพงศ์ กล่าวต่อถึงการเดินหน้าเปิดบริการโครงการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1 ) เป็นอาคาร 4 ชั้น มีพื้นที่บริการรวม 216,000 ตารางเมตร (ใช้เงินลงทุนกว่า 39,760 ล้านบาทรองรับผู้โดยสารเพิ่มอีกได้ปีละ 15 ล้านคน จากพื้นที่อาคารหลังปัจจุบันอีก 45 ล้านคน รวมแล้วหลังจากเปิดอาคาร SAT-1 ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมตั้งแต่กันยายน 2566 เป็นต้นไปสุวรรณภูมิจะรองรับการเดินทางได้ปีละ 60 ล้านคน ขณะนี้ได้เตรียมการทดสอบระบบทุกวันเหมือนปฏิบัติการปกติทั้ง ระบบสายพานขนสัมภาระกระเป๋า แอร์ปรับอากาศ รถไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารเชื่อมต่ออุโมงค์ด้านทิศใต้ (APM)  ส่วนร้านค้า ร้านดิวตี้ฟรี เลาจน์สายการบินต่างๆ กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างให้แล้วเสร็จทันเปิดใช้บริการ

อาคาร SAT-1 ได้ออกแบบดีไซน์ใหม่เครื่องบินสามารถจอดประชิดอาคารได้ เป็นเทรนด์ใหม่ของสนามบินนานาชิเปิดโล่งหรือ Open Gate บริเวณลานมีหลุมจอดเครื่องบินได้ 28 หลุมจอด มีความโอ่อ่าเป็นหน้าตาของประเทศไทยที่จะสร้างความประทับใจแก่นักเดินทางทั่วโลกได้อย่างแน่นอน

สำหรับสายการบินที่จะขอใช้อาคาร SAT-1 เบื้องต้นจะมีสายการบินขนาดใหญ่กลุ่มตะวันออกกลางพร้อมใช้จ่ายเงินลงทุนสูงเข้าไปใช้บริการ เช่น เอมิเรตส์ กาตาร์แอร์เวย์ส เอทิฮัด สนใจจะย้ายเพื่อสร้างเลาจน์ขนาดใหญ่ให้บริการผู้โดยสารที่มีกำลังซื้อสูง และใช้เครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น แอร์บัส A380 ส่วนอีกสายคือ ไทยแอร์ เอเชีย เอ็กซ์ ทำหนังสือถึงสุวรรณภูมิมาเรียบร้อยแล้ว

วิธีการเดินทาง จะต้องใช้อาคารหลังหลักปัจจุบัน  เช็คอินตั๋วโดยสาร และตรวจคนเข้าเมืองก่อน เพื่อเชื่อมต่อด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินไปยังอาคาร SAT-1 ซึ่งจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกซึ่งสามารถขึ้นเครื่องของแต่ละสายการบินได้ตามปกติ พร้อมทั้งมีร้านค้า ร้านอาหาร แบบสนามบินนานาชาติสมัยใหม่ในทั่วโลกซึ่งจะสร้างความประทับใจแก่ผู้ใช้บริการทุกคน

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen