“สุริยะ” สั่งเจ้าหน้าที่จังหวัดลงพื้นที่ติดตามผลกระทบน้ำท่วม

  • โรงงานที่ได้รับผลกระทบ
  • ให้รีบแจ้งอุตสาหกรรมจังหวัดในพื้นที่
  • ขอความช่วยเหลือได้โดยตรง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรมวฺอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยในภาคใต้ส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งประชาชนและผู้ประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.)จึงได้ติดตามผลกระทบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการในพื้นที่ และตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดในพื้นที่น้ำท่วมลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และหามาตรการให้ความช่วยเหลือต่อไป

ล่าสุดได้รับรายงานผู้บริหารกระทรวงฯได้ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยได้นำสิ่งของบริจาคไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนขณะที่ในภาคอุตสาหกรรมได้รับรายงานจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ที่สำรวจ ณ วันที่ 4 ธ.ค.จำนวน70 ราย มูลค่าความเสียหายรวม37 ล้านบาท แบ่งเป็น 1. ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 57 รายมูลค่าความเสียหาย 26.8 บาท 2. ผู้ประกอบการเหมืองแร่ จำนวน 8 ราย มูลค่าความเสียหาย 10.1 ล้านบาท และ 3. ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน จำนวน 5 ราย มูลค่าความเสียหาย 770,000 บาท

สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจเยี่ยม เป็นโรงงานประกอบธุรกิจเหมืองแร่และโรงแต่งแร่ 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท เอเซียเหมืองแร่อุตสาหกรรม จำกัดอ.ท่าศาลา ถูกน้ำท่วมเข้าไปในโรงงานทำให้ไม่สามารถดำเนินงานได้ และมีแร่บางส่วนที่เตรียมส่งมอบลูกค้าสูญหายไปกับน้ำ ประเมินมูลค่าความเสียหาย 6 ล้านบาทแห่งที่ 2 คือ บริษัท พี แอนด์ เอส แบไรท์ ไมน์นิ่ง จำกัด อ.ท่าศาลา น้ำท่วมโรงแต่งแร่ทำให้ต้องหยุดประกอบกิจการ มูลค่าความเสียหาย 3 00,oooบาท

นอกจากนี้ยังได้ลงพื้นที่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดนคร แดรี่ พลัส อ.พระพรหม ประกอบกิจการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ ถูกน้ำท่วมเครื่องจักรต้องหยุดประกอบกิจการ รวมถึงวัตถุดิบคือ น้ำนมดิบที่รับซื้อมาแล้วเสียหาย ต้องทิ้งทั้งหมด และทำให้ไม่สามารถส่งนมโรงเรียนได้ตามเวลาที่กำหนด ความเสียหาย 8 ล้านบาทและห้างหุ้นส่วนจำกัดซี.ซี.จักรกล และก่อสร้าง อ.ร่อนพิบูลย์ ประกอบกิจการผลิตคอนกรีตผสมเสร็จผลิตภัณฑ์คอนกรีตทุกชนิด และแอสฟัสท์ติกคอนกรีต ได้รับผลกระทบทั้งในโรงงานรถทำถนนของบริษัทที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย ตาชั่งและกำแพงโรงงานพังเสียหายทั้งหมดความเสียหาย10ล้านบาท
ดีงนั้นกระทรวงฯได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการเหล่านี้แจ้งเข้ามายังอุตสาหกรรมจังหวัดในพื้นที่ที่โรงงานประกอบกิจการอยู่ เพื่อทางกระทรวงจะได้ให้หามาตราการในการช่วยเหลือต่อไป