“สุริยะ” สั่งขนส่งลงดาบรถตู้โจรขั้นสูงสุดตามกฏหมายจากเหตุการณ์ข่มขืนผู้โดยสาร

“สุริยะ” สั่งขนส่งทางบกตรวจสอบด่วน หลังมีข่าวเด็กวัย 13 ปี โดนคนขับข่มขืน ลั่นหากพบทำผิดเพิกถอนใบอนุญาต

  • สั่งเร่งตรวจสอบเข้มงวดต่อผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะทั้งหมด
  • ด้านกรมการขนส่งฯ สั่งในพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับรถตู้คันดังก่าว พร้อมเรียกตัวผู้ต้องสงสัยชี้แจงข้อเท็จจริง
  • เผยจะติดตามผลการสอบสวน เพื่อรายงานต่อไป หากกระทำความผิดจริงจะสั่งพักใช้ใบอนุญาต

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งสั่งการขนส่งทางบก ให้เร่งรัดดำเนินการตรวจสอบต่อผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวเด็กหญิงอายุ 13 ปี โดยสารรถตู้ จากอำเภอแวงน้อยจังหวัดขอนแก่น ไปยังกรุงเทพมหานคร ระหว่างทางได้ถูกคนขับรถตู้ข่มขืน หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกระทำผิดตามที่ตกเป็นข่าวจริง ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายทันที 

“กระผมมีความห่วงใยในเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น พร้อมเร่งดำเนินการตรวจสอบเข้มงวดต่อผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะทั้งหมดให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ในลักณะนี้ขึ้นอีก” นายสุริยะ กล่าว

​ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกได้ดำเดินการตามข้อสั่งการของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมอบหมายให้ สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถที่ใช้ในการรับจ้างขนส่งผู้โดยสารคันดังกล่าว และได้มีหนังสือเรียกตัวผู้ต้องสงสัยไปให้ถ้อยคำและชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณาการดำเนินการตามกฎหมายที่สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งประสานข้อมูลการดำเนินคดีของเจ้าพนักงานสอบสวน ที่ สภ.แวงน้อย 

โดยขณะนี้ ผู้ต้องสงสัยได้ติดต่อเข้าพบเจ้าพนักงานสอบสวนและให้การปฏิเสธ แต่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จึงได้นำรถที่ก่อเหตุไปให้ตรวจสอบหาหลักฐาน และทำการตรวจร่างกายผู้ต้องสงสัย ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะติดตามความคืบหน้าผลการสอบสวนเพื่อรายงานต่อไป หากกระทำความผิดจริง จะสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถตามมาตรา 109 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ประกอบระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2564 เป็นเวลาไม่เกิน 180 วัน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถตามความร้ายแรงต่อไป 

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้กำชับให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง กำกับควบคุมดูแลผู้ประจำรถไม่ให้กระทำการลักทรัพย์หรือทำร้ายร่างกายผู้โดยสารในระหว่างทำการขนส่ง หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามมาตรา 32 (6) แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มีความผิดตามมาตรา 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท