

- ตั้งเป้าหมาย15%ของต้นทุนรวม
- เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ 800ล้านบาท
- กดปุ่มนำร่องปีนี้ให้ได้170กิจการ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยว่าได้สั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(ดีพร้อม) เร่งผลักดันโครงการเพิ่มขีดความสามารถบริหารจัดการโลจิสติกส์ ของภาคอุตสาหกรรมให้แก่เอสเอ็มอีและวิสาหกิจ เนื่องจากต้นทุนโลจิสติกส์ของสถานประกอบการแต่ละแห่ง มีต้นทุนค่อนข้างสูง หากลดต้นทุนในส่วนนี้ได้ จะช่วยให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เบื้องต้นตั้งเป้าต้องลดให้ได้ไม่น้อยกว่า 15% เทียบกับต้นทุนเดิม โดยจะลดทั้งในส่วนของการจัดการสินค้าคงคลัง การจัดการคลังสินค้า การจัดการการขนส่ง และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลดต้นทุนโลจิสติกส์ทั้งหมด ตั้งเป้าหมายปี นี้จะลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ของสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการมูลค่าทางเศรษฐกิจ 800 ล้านบาท
“ต้นทุนโลจิสติกส์ของภาคอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 3 ด้านหลัก 1. ต้นทุนการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง 2. ต้นทุนการขนส่งสินค้า และ 3. ต้นทุนการบริหารจัดการ ดีพร้อมจึงเร่งเป้าหมาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสถานประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายให้ทันสมัยและได้มาตรฐานสากล”
ทั้งนี้ดีพร้อมได้เร่งดำเนินการในหลายๆ กิจกรรม เพื่อให้เอสเอ็มอี นำไปปรับปรุงกิจการ เช่น กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์ , กิจกรรมพลิกธุรกิจด้วยโลจิสติกส์กับการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ , กิจกรรมเสริมสร้างความร่วมมือด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ดำเนินการโดยการโค้ชชิ่ง การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยง และสร้างความร่วมมือในโซ่อุปทานทั้งภายในและภายนอกกลุ่มอุตสาหกรรม , กิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ และกิจกรรมสร้างศักยภาพบุคลากร
“สถานประกอบการเป้าหมายอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนโลจิสติกส์สูง ประกอบด้วย อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีและพลาสติก ยานยนต์และชิ้นส่วน ยางพารา และผลิตภัณฑ์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และสถานประกอบการ อาทิ เกษตรแปรรูป และเครื่องจักรกล โดยจะพัฒนาสถานประกอบการ 170 กิจการ และพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรม ให้มีทักษะและองค์ความรู้ด้านจัดการโลจิสติกส์ที่นำไปใช้ได้จริง 100 ราย”
#TheJournalistClub #โควิด19 #วัคซีนโควิด #ล็อกดาวน์