

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน (The Guardian) ของสหราชอาณาจักร เปิดเผยถึงความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของเด็กในสหรัฐฯ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่าเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีในสหรัฐฯ ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรก มากกว่า 360,000 คนแล้ว
หนังสือพิมพ์ฯ รายงานอ้างจอร์จ กาบาเยโร วิสัญญีแพทย์เฉพาะทางและผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มอาสาสมัครโคเดอร์ส อเกนสท์ โควิด (Coders Against Covid) ว่าย่านชุมชนที่อาศัยของคนผิวขาวมีการตั้งจุดฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่าย่านอื่นๆ ถึง 2 เท่า
“เรายังพบว่าภายในย่านชุมชนเหล่านั้น จุดฉีดวัคซีนมักกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ที่มั่งคั่งมากกว่าเป็นส่วนใหญ่” กาบาเยโรให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฯ พร้อมเสริมว่าคนทุกเชื้อชาติและชาติพันธุ์ให้ความสนใจที่จะเข้ารับวัคซีนเท่าๆ กัน แต่ดูเหมือนว่าการเข้าถึงจะถูกจำกัด
กาบาเยโรแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเข้าถึงวัคซีนในหมู่เด็กๆ โดยเรียกร้องให้ศูนย์ฯ แสดงข้อมูลที่โปร่งใสเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนให้เด็กๆ ทุกเชื้อชาติและชาติพันธุ์ พร้อมชี้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมด้านการตรวจโรคและการฉีดวัคซีนในหมู่ประชากรผู้ใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“เรายังคงทำพลาดเรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราแค่ไม่มีความกระตือรือร้นเพียงพอที่จะจัดการปัญหาความไม่เท่าเทียมนี้ พวกเราแค่ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมเท่านั้น” เขากล่าว
ทั้งนี้ สหรัฐฯ พบว่าผู้ป่วยเด็กครองสัดส่วน 1 ใน 4 ของผู้ป่วยใหม่ทั้งหมด ติดต่อกันเป็นเวลาหลายเดือน แม้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปจะสามารถเข้าถึงวัคซีนได้แล้วก็ตาม