

- เชื้อกลายพันธุ์ไม่รุนแรงเพิ่มขึ้น อัตราป่วยคงที่
- ส่วนจะเป็นโรคประจำถิ่นขึ้นกับนิยามที่แตกต่างกัน
- เป็นโรคประจำถิ่นและเป็นโรคตามฤดูกาล เช่น ไข้เลือดออก
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า หลังปีใหม่ประเทศไทยควบคุมสถานการณ์โควิด 19 ได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนที่หลายประเทศมีอัตราการติดเชื้อแบบก้าวกระโดด แต่เราได้รับความร่วมมือจากประชาชนทำให้การระบาดไม่มากนัก แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้การติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นการติดต่อในกลุ่มเล็กๆ มีกิจกรรมที่เสี่ยงสูง เช่น รับประทานอาหารร่วมกัน จึงยังต้องย้ำเรื่องการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง
สำหรับนิยามเกี่ยวกับโรคติดต่อขึ้นกับวัตถุประสงค์ ปัจจุบันมี 2 แบบ คือ 1.นิยามตามกฎหมาย จาก พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 4 ได้แก่ โรคติดต่อ โรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และโรคระบาด เป็นนิยามสำหรับใช้ในการควบคุมโรค เพื่อมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ในการดำเนินการเฝ้าระวังและควบคุมโรค ซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละระดับ 2.นิยามทางสาธารณสุข ทางการแพทย์ และระบาดวิทยา เพื่อสื่อสารทำความเข้าใจได้ตรงกัน ได้แก่ “Pandemic” การระบาดใหญ่ทั่วโลก , “Epidemic” โรคระบาด ที่ระบาดรวดเร็วแต่ขอบเขตเล็กกว่า และ “Endemic” โรคประจำถิ่น ซึ่งอัตราติดเชื้อต้องค่อนข้างคงที่ สายพันธุ์ค่อนข้างคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงจนรุนแรงมาก และคาดการณ์การระบาดได้
“การระบาดใหญ่ทั่วโลกมี 3 ระยะ คือ Pre-Pandemic ก่อนระบาดทั่วโลก, Pandemic การระบาดทั่วโลก อาจกินเวลาสั้นๆ 1-2 ปี หรือหลายปี และ Post-Pandemic ซึ่งเชื่อว่าโรคโควิด 19 จะผ่านการระบาดใหญ่เข้าสู่ระยะ Post-Pandemic ภายในปีนี้ ด้วย 2 เหตุผล คือ คนทั่วโลกฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 1 หมื่นล้านโดส ประเทศไทยฉีดเกิน 115 ล้านโดส และไวรัสกลายพันธุ์ล่าสุดคือโอมิครอน แม้ระบาดเร็วแต่ความรุนแรงน้อยลง จึงน่าจะควบคุมและคาดการณ์การระบาดได้ โดยอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น โรคติดต่อทั่วไป หรือโรคตามฤดูกาล ตามแต่นิยามที่แตกต่างกันไป เช่น ไข้เลือดออก เป็นโรคประจำถิ่นและเป็นโรคตามฤดูกาล เพราะระบาดในพื้นที่ภูมิภาคนี้และมีรูปแบบการระบาดในช่วงฤดูฝน ซึ่งจะรู้ว่าเป็นการระบาดตามฤดูกาลหรือไม่ ต้องใช้เวลาหลายปีในการดูรูปแบบการระบาด”