.หลังพบส่งอีเมล์ข่มขู่สมาชิกเดโมแครตให้เลือก”ทรัมป์”
.ชี้อิหร่านหวังบ่อนทำลาย”ทรัมป์”แต่รัสเซียหวังช่วยเหลือ
.ทางการกำลังสอบสวนข้อเท็จจริงยังไม่รู้ใครอยู่เบื้องหลัง
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า จอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (ดีเอ็นไอ) แห่งสหรัฐฯ ระบุในวันพุธ (21 ต.ค.) ว่ารัสเซียและอิหร่าน พยายามแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020 หลังพบอีเมลส่งถึงบรรดาสมาชิกเดโมแครต ข่มขู่ให้หันมาเลือกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งวันที่ 3 พ.ย.นี้
แรตคลิฟฟ์ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวก่อนการเลือกตั้ง 2 สัปดาห์ ร่วมกับ คริสโตเฟอร์ เรย์ อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ว่า ต่างชาติอาจกำลังหาทางบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของสหรัฐฯ ต่อความซื่อสัตย์ของการเลือกตั้งครั้งนี้ และยังได้เผยแพร่ข้อมูลเท็จ เพื่อเบี่ยงผลการลงคะแนน
“เรายืนยันว่าอิหร่านและรัสเซียมีข้อมูลทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วน” แรตคลิฟฟ์กล่าว
แม้ข้อมูลของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นข้อมูลสาธารณะ แต่แรตคลิฟฟ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาล “เห็นอิหร่านส่งอีเมลที่แอบอ้างอีเมลแอดเดรสของผู้อื่น เพื่อข่มขู่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ปลุกปั่นความไม่สงบทางสังคม และก่อความเสียหายแก่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์”
แรตคลิฟฟ์ อ้างถึงอีเมลที่ถูกส่งเมื่อวันพุธ (21 ต.ค.) ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่า เป็นการส่งมาจากพวก Proud Boys กลุ่มลัทธิชาตินิยมคนผิวขาว ที่เกลียดชังผู้หญิงและเกลียดกลัวอิสลาม แต่สนับสนุนทรัมป์
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บรรดาหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เคยเตือนว่า อิหร่านอาจแทรกแซงเพื่อบ่อนทำลายทรัมป์ ส่วนรัสเซียกำลังพยายามช่วยเหลือทรัมป์ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้
ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก มองว่า หากข้อสันนิษฐานของ แรตคลิฟฟ์ ถูกต้อง ก็หมายความว่า อิหร่านกำลังพยายามทำให้ ทรัมป์ ดูแย่ ด้วยการโยงเขากับกลุ่มหัวรุนแรงที่ข่มขู่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนอีเมลดังกล่าว และแหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองรายหนึ่งบอกว่า ยังไม่ เป็นที่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการข่มขู่ทางอีเมลครั้งนี้
แหล่งข่าวในรัฐบาลอีกคนบอกว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯกำลังสืบสวนว่าคนบางคนอาจแฮกเข้าเครือข่ายหรือ เว็บไซต์ของ Proud Boys เพื่อแพร่กระจายเนื้อหาข่มขู่หรือไม่ โดยแหล่งข่าวรายนี้ระบุเจ้าหน้าที่สหรัฐฯสงสัยว่ารัฐบาลอิหร่านมีความเกี่ยวข้อง แต่ยอมรับว่ายังไม่ได้ข้อสรุป
แหล่งข่าวอ้างอีกว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯมีหลักฐานว่า รัสเซียและอิหร่านพยายามแฮกข้อมูลผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในหลายรัฐ พร้อมตั้งข้อสันนิษฐานอีกว่า ด้วยที่ข้อมูลผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งส่วนใหญ่สามารถซื้อขายได้ในทางพาณิชย์ บางทีที่พวกคนร้ายลงมือแฮกข้อมูล ก็เพราะไม่ต้องการเสียเงิน
