

- มีทั้งเมียนมา จีน เอธิโอเปีย อิรัก ซีเรีย และซูดานใต้
- ลั่นกดดันทุกช่องทางให้รัฐบาลหยุดใช้ความรุนแรง
- ตั้งแต่ประณาม-งดช่วยเหลือ-ตรวจสอบความจริง
วีโอเอรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานประจำปีเรื่อง “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการปฏิบัติอย่างโหดร้ายต่อประชาชน” พบ 6 ประเทศ เกิดเหตุการณ์รุนเเรง ทั้งเมียนมา จีน เอธิโอเปีย อิรัก ซีเรีย และซูดานใต้ เผยสหรัฐฯใช้มาตรการกดดันทางเศรษฐกิจและการทูต หวังให้หยุดความรุนแรง
นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศ สหรัฐฯ กล่าวว่า รัฐบาลจะใช้เครื่องมือต่างๆ รวมถึงช่องทางการทูต การให้ความช่วยเหลือ การตรวจสอบหาความจริง มาตรการทางการเงิน เเละการนำเสนอรายงานเพื่อให้เกิดเเรงขับเคลื่อนเพื่อการเปลี่ยนแปลง อย่างกรณีที่จีนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง และก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ กระทรวงฯ ยังคงไม่ออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่จีนที่เชื่อว่ามีส่วนรับผิดชอบกับการจับกุมและคุมขังชาวอุยกูร์ในประเทศจีน
ขณะเดียวกัน ทั้งสหรัฐฯ สหภาพยุโรป อังกฤษและเเคนาดา ต่างใช้มาตรการลงโทษชาวจีน 2 รายที่มีส่วนเกี่ยวของกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง นอกจากนี้ บริษัทจีนหลายสิบเเห่ง ยังถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อผู้ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียงเช่นกัน
นอกจากนี้ รายงานฉบับนี้ ยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์ให้เอธิโอเปีย ที่เกิดความรุนเเรงในเขตทิเกรย์ ซึ่งอเมริกาใช้คำว่า การกวาดล้างทางชาติพันธุ์ (ethnic cleansing) ต่อสถานการณ์ในบริเวณดังกล่าว และออกมาตรการตอบโต้รัฐบาลเอธิโอเปีย ด้วย
ทางด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทอม เเดนเนบาม ผู้สอนวิชากฎหมายระหว่างประเทศที่ Fletcher School แห่งมหาวิทยาลัย Tufts ของสหรัฐฯ กล่าวว่า เหตุการณ์ในเมียนมา ทางการสหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการลงโทษผู้นำทหารและระงับกิจกรรมทางกลาโหมร่วมกับเมียนมา ตั้งเเต่กองทัพก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.64 นอกจากนี้ ยังขยายการให้สถานะคุ้มครองต่อคนพม่าในสหรัฐฯ 18 เดือน อีกทั้งเรียกกรณีที่เมียนมาได้ปราบปรามชาวโรฮีนจาอย่างรุนแรงในปี 59-60 ว่าเป็นการกวาดล้างทางชาติพันธุ์