สหรัฐยันการแบนแอป WeChat ไม่ส่งผลต่อการผู้ใช้งานในสหรัฐ แต่ปิดกั้นการทำธุรกรรมของบริษัทผู้ให้บริการจากจีนเท่านั้น

  • ปิดกั้นการมำธุรกรรมจากจีน
  • อ้างคุกคามความมั่นคง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คำสั่งของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ “โดนัลด์ ทรัมป์” เมื่อว้นที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมาที่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อแบนแอปพลิเคชั่น WeChat และ TikTok ในสหรัฐเมื่อวันพุธที่ผ่านมากับข้ออ้างว่าเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงแห่งชาติและกำหนดเส้นตายในวันที่ 20 กันยายนเพื่อให้กระทรวงพาณิชย์ร่างมาตรการเฉพาะสำหรับการปิดกั้น “ธุรกรรม” กับเจ้าของแอปชาวจีน แต่ไม่ได้ระบุว่าได้ปิดกันใช้แอปในสหรัฐที่ต้องใช้บริการนี้่ จึงไม่มีผลต่อผู้ใช้งาน

ก่อนหน้านี้กลุ่มพันธมิตรที่เรียกว่า U.S. WeChat Users Alliance และผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นยอดนิยมดังกล่าวเพื่อทำธุรกิจ ด้านศาสนา และการติดต่อสื่อสารกับครอบครัวในจีนได้ยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลในรัฐแคลิฟอร์เนียเพื่อให้ระงับคำสั่งห้ามแอปดังกล่าว โดยระบุว่า คำสั่งห้ามนี้ละเมิดเสรีภาพในการพูด เสรีภาพในการนับถือศาสนา และสิทธิ์อื่นๆ ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ

กลุ่มพันธมิตรดังกล่าวเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร กล่าวว่าพวกเขาพึ่งพาแอปในการทำงานนมัสการและติดต่อกับญาติในจีนที่ถูกฟ้องให้หยุดการห้ามในศาลรัฐบาลกลางในแคลิฟอร์เนีย คำฟ้องดังกล่าวระบุว่าคำสั่งห้ามดังกล่าวละเมิดเสรีภาพในการพูดของผู้ใช้ในสหรัฐฯการใช้ศาสนาและสิทธิตามรัฐธรรมนูญ

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุในเอกสารที่ยื่นต่อศาลในวันพุธว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ “ไม่ได้มีประสงค์ที่จะดำเนินการใดๆ ที่เป็นการมุ่งเป้าไปยังบุคคลหรือกลุ่มคน ที่ใช้งาน WeChat เป็นการส่วนตัว หรือ แม้แต่การดาวน์โหลดแอปมาใช้ส่งข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางธุรกิจระหว่างผู้ใช้งานเท่านั้น” พร้อมยืนยันว่า ผู้ใช้งานแอปดังกล่าวจะไม่ถูกดำเนินการตามกฎหมายไม่ว่า “ทางอาญาหรือทางแพ่ง” ด้วย