สศค.ไปไม่ถึงฝัน หั่นจีดีพีปี 2563เหลือ 2.8% หลังเจอพิษโคโรนา



  • คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติหาย 400,000 ราย
  • ภาคการส่งออกทรุดขยายตัวแค่ 1%
  • เล็งออกชิมช้อปใช้ 4 กระตุ้นบริโภคภายในประเทศ 

นายลวรณ แสงสนิท สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สศค.ได้ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ปี 2562 จากเดิมคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนต.ค.2562 ว่าจะขยายตัวที่ 2.8 % เหลือเพียง 2.5% เท่านั้น เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า เช่น จีน สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา เป็นต้น และปริมาณการค้าโลก ชะลอตัวลงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยหดตัวลงถึง 2.7%

 ส่วนในปี 2563 จากเดิมคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอยู่ที่ 3.3 % ลดลงเหลือเพียง 2.8% เท่านั้น ในขณะที่การส่งออกในปี 2563 คาดว่าจะขยายตัว 1% จากเดิมคาดการณ์ว่าจะขยายตัวถึง 2.6% ทั้งนี้สาเหตุหลักเนื่องจากเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งกระทบกับภาคการท่องเที่ยว และคาดว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้หายไปราว 400,000 ราย  อย่างไรก็ตามสศค.คาดว่าสถานการณ์ไวรัสโคโรนาจะส่งผลกระทบในระยะสั้นๆ และจะคลี่คลายภายใน 3 เดือน

“ขณะที่เรื่องปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 ที่ล่าช้านั้น กระทรวงการคลังพร้อมจะออกมาตรการมาดูแลเศรษฐกิจในประเทศระหว่างที่งบประมาณลงทุนยังเบิกไม่ได้ก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ออกมาตรการกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนไปแล้ว 110,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจเติบโต 0.25% และหลังจากนี้อาจจะมีการออกมาตรการกระตุ้นบริโภคในประเทศ ผ่านมาตรการ “ชิมช้อปใช้”ระยะที่4 (เฟส 4 ) ออกมาอีก เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายซื้อของในประเทศ ซึ่งปัจจุบันกำลังพิจารณารายละเอียดอยู่”

อย่างไรก็ตามในปี 2563 มองว่าการลงทุนภาคเอกชนจะมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการการเงินการคลังเพื่อสนับสนุนการลงทุนในประเทศปี 2563รวมทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ของรัฐวิสาหกิจ และโครงการร่วมลงทุนของภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) ในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในประเทศได้มากขึ้น

ทั้งนี้ประกอบกับภาคส่งออกไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทยที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ และแนวโน้มการเติบโตของปริมาณการค้าโลกที่คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นในเร็วๆนี้ ขณะที่การใช้จ่ายของภาครัฐและภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ส่วนในด้านเสถียรภาพภายในประเทศ คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2563 จะอยู่ที่ 0.8% ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย ตามการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศ