

นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า สำหรับรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนม.ค.2564 ที่เป็นการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค พบว่า
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (RSI) ประจำเดือนม.ค. 2564 นั้นแนวโน้มความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในบางภูมิภาค โดยเฉพาะภาคการลงทุนและ ภาคบริการของ กทม. และปริมณฑล เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ขณะที่แนวโน้มความเชื่อมั่นในอนาคตของ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกยังมีทิศทางที่ดีขึ้น
โดยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 55.7 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะภาคเกษตรและภาคการลงทุน เนื่องจากการเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวใน ภาคเกษตรส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น ในส่วนของภาคการลงทุนคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่น่าจะปรับตัวดีขึ้น
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 53.7 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ยังมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยางพาราเพิ่มสูงขึ้น เช่น ถุงมือแพทย์ ถุงยางอนามัย ยางยืด และยางรถยนต์
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันออก อยู่ที่ระดับ 52.2 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวสินค้าเกษตร ประกอบกับมาตรการภาครัฐในการช่วยเหลือและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม ทำให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคเหนือ อยู่ที่ระดับ 50.1 สะท้อนความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในระดับที่ทรงตัว เนื่องจาก เกษตรกรคาดว่าปริมาณน้ำอาจจะไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูกในช่วงสิ้นสุดฤดูฝนและเข้าสู่ฤดูแล้ง จึงลดพื้นที่การเพาะปลูกลง ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่คาดการณ์การกระจายวัคซีนป้องกันโรคอย่างทั่วถึงยังสร้างความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรม
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคกลาง อยู่ที่ 43.4 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะภาคการเกษตรและภาคการจ้างงาน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลให้ผู้ประกอบการชะลอการลงทุนและลดการจ้างงานลง
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก อยู่ที่ 41.3 สะท้อนถึงการคาดการณ์การชะลอตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม ส่วนภาคเกษตรยังมีแนวโน้มความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นโดยคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิ-19 จะคลี่คลายและทำให้มีความต้องการสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนภาคเกษตรอย่างต่อเนื่อง
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม. และปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 40.7 สะท้อนภาวะอนาคตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ในภาพรวม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19