- “ทรัมป์” เปิดปฏิบัติการสะเทือนขวัญโลกด้วยการส่งโดรนพิฆาตสังหารผู้นำกองทัพอิหร่าน ผลทำให้เศรษฐกิจโลกจดจ่ออยู่กับการตอบโต้ของอิหร่าน
.ส่งโดรนสังหารผู้นำกองทัพอิหร่าน
ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งสะเทือนขวัญชาวโลก ด้วยการให้กองทัพอากาศสหรัฐส่งโดรนสังหารเพียงลำเดียวที่ชื่อ MQ-9 Rip per เข้าไปปลิดชีพนายพลคนสำคัญของอิหร่าน พล.อ.กาเซ็มโซไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังทหารสูงสุดของอิหร่านขณะกำลังเดินทางไปสนามบินนานาชาติกรุงแบกแดด ส่งผลให้มีนายทหารสำคัญๆหลายนายเสียชีวิตไปด้วย พล.อ.โซไล มานี มีสถานะเป็นอันดับ 2 รองจากผู้นำสูงสุดอันดับ 1 อยาตอลเลาะห์ อาลี คา เมเนอี ทำให้ชาวอิหร่านจำนวนนับแสนแสดงความโกรธเกรี้ยวและออกมาชุมนุม ประท้วงสหรัฐ กรณีนี้ทำให้รัฐบาลอิหร่านประกาศระดมทุนจากประชาชนคนละ 1 ดอลล่าร์สหรัฐจากประชากร 80 ล้านคนเพื่อปลิดชีพนายทรัมป์ พร้อมกันนี้ก็ยิงจรวดวิถีไกลถล่มค่ายทหารสหรัฐในอิรัก กระท่ังสภาอิิรักต้องลงมติขับกองทัพสหรัฐออกไปจากประเทศตนให้เร็วที่สุด
.โลกการเงินส่ันสะเทือน
ผลจากการสังหารผู้นำกองทัพอิหร่านทำให้ตลาดหุ้นท่ัวโลกปั่นป่วน นักลงทุนเทขายหุ้น และหันไปถือทองคำ จนราคาทองคำกลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับราคาน้ำมัน เนื่องหลายประเทศกลัวจะเกิดสงครามโลกขึ้นอย่างไรก็ตาม หลังสถานการณ์สงบลงเมื่อมีการทำพิธีฝังศพผู้นำกองทัพอิหร่านแล้ว ตลาดเงินตลาดทุน หุ้น ทองคำ และน้ำมันก็กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าเมื่อวันพฤหัสฯที่ 28,385.25 จุด เพิ่มขึ้น 297.33 จุด, +1.06% ดัชนี NIKKEI 225 ปิดภาคเช้าที่ 23,677.81จุดเพิ่มขึ้น 473. 05 จุด, + 2.04% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่1,592. 79 จุด เพิ่มขึ้น 3.69 จุด, +0.23%
.ญี่ปุ่นเห็นด้วยที่จะคว่ำบาตรอิหร่าน
นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น แสดงความคิดเห็นในเชิงสนับสนุนการตัดสินใจของสหรัฐที่เลือกใช้การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจแทนการใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อตอบโต้ที่อิหร่านยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพสหรัฐในอิรัก นายอาเบะ กล่าวว่า“ญี่ปุ่นขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยับยั้งชั่งใจเรื่องนี้ให้ดี” การแสดงความเห็นของนายอาเบะครั้งนี้ มีขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงยืนยันว่า ไม่มีชาวอเมริกันเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากการที่อิหร่านใช้ขีปนาวุธโจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรัก และการตอบโต้อิหร่านจะใช้วิธีการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่เข้มข้น
.บริษัทญี่ปุ่นมีมุมมองเป็นลบต่อเศรษฐกิจ
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวเกียวโด บ่งชี้ว่า บริษัทรายใหญ่มีมุมมองเป็นลบมากขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ จากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และการปรับขึ้นภาษีการอุปโภคบริโภค ผลสำรวจจัดทำขึ้นในช่วงต้นเดือนพ.ย.-ธ.ค.โดยทำ การสอบถามบริษัท 113 แห่ง รวมถึง โตโยต้า มอเตอร์ เอ็นทีที โดโคโม อิงค์ และโซนี่ คอร์ป ปรากฏว่า 19% ของบริษัทที่ทำการสำรวจกล่าวว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปซึ่งตัวเลขนี้ลดลงจากระดับ 23% ในการสำรวจช่วงฤดูร้อนก่อน และไม่มีบริษัทใดเลยที่เชื่อว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโต อย่างแข็งแกร่ง ผู้ตอบแบบสำรวจ 61% เชื่อว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะทรงตัว มี 19% เชื่อว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆชะลอตัว โดยในจำนวนนี้มี 26% ที่มองว่า “การค้าชะลอตัวลงจากผลกระทบนโยบายกีดกันการค้า” และ 14% มองว่า “การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นสาเหตุที่ทำให้การค้าซบเซาลง”
