

- หลักพิจารณาต้องทำให้เกิดความสมดุลทั้ง 4 เรื่อง
- ไม่กระทบรายได้ผู้ปลูกใบยา-รายได้รัฐ-ไม่จูงใจคนสูบเพิ่ม-ลดการลักลอบนำเข้า
- เผย ชาวไร่ยาสูบปลูกพืชอื่นทดแทนได้ 10 ชนิด ไม่จำเป็นต้องปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ภายในเดือนมี.ค.64 นี้ จะได้ข้อสรุปเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ เพื่อนำเสนอนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ให้สรุปอีกครั้งก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ซึงจะทำให้โครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่สามารถเริ่มบังคับใช้ได้ในวันที่ 1 ต.ค.64 เพื่อรองรับการมาตรการเลื่อนการขึ้นภาษียาสูบเป็น 40% จากเดิมที่จัดเก็บภาษี 20% อีกเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดในปีงบประมาณ 2564 ด้วย
สำหรับการพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีดังกล่าวจะต้องตอบโจทย์ 4 เรื่องหลัก คือ 1. การดูแลเกษตรกร 2. สุขภาพของประชาชน 3. ปราบปรามบุหรี่เถื่อน และ 4. รองรับการจัดเก็บรายได้ของกรม ซึ่งจะไม่มีข้อใดมากหรือน้อยกว่าจะพยายามทำให้เหมาะสมและสมดุลมากที่สุด
ส่วนกรณีที่เกษตรกรชาวไร่ยาสูบแสดงความไม่พอใจกับการที่กรมพิจารณาให้ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ปลูกเป็นพืชทดแทนยาสูบนั้น หากเกษตรกรไม่พอใจกับสิ่งที่กรมเลือกให้ ก็สามารถปลูกพืชชนิดอื่นแทนได้ โดยกรมพิจารณาพืชทดแทนยาสูบอยู่ 10 ชนิด ซึ่งสาเหตุที่เลือกข้าวโพดนั้น เป็นเพราะว่าการปลูกพืชดังกล่าวมีการประกันรายได้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร อย่างไรก็ตามกรมจะให้สรรพสามิตในพื้นที่เข้าไปใช้ความรู้และทำความเข้าใจกับเกษตรกรอีกครั้ง
ขณะที่แนวทางใช้กัญชง-กัญชา เป็นพืชทดแทนให้กับเกษตรกรนั้น จะต้องดูกฎหมายว่าขณะนี้เอื้ออำนวยหรือไม่ หากกฎหมายเปิดทางให้สามารถปลูกได้อย่างถูกต้องแล้ว กรมก็จะพิจารณาอนุญาตให้เกษตรกรไร่ยาสูบได้รับการปลูกเป็นกลุ่มแรก ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวจะปลดล็อกกัญชง กัญชา อนุญาตให้นำมาใช้เชิงพาณิชย์ เช่น เป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มบำรุงกำลังนั้น ในต่างประเทศก็มีตัวอย่างสามารถทำได้ ส่วนในประเทศไทยต้องรอดูกฎหมายอีกครั้งว่าจะทำได้หรือไม่ กรมจึงจะสามารถนำมาคำนวณการคิดอัตราภาษีได้
“ยอมรับว่าการจัดเก็บรายได้ของกรมในปีงบประมาณ 2564 จะลดลงจากเดิม แต่กรมจะพยายามเก็บภาษีให้ใกล้เคียงมากที่สุด โดยหากเทียบกับเอกสารงบประมาณไตรมาส 1 ปี 2564 จัดเก็บภาษีได้ 145,000 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว 12,000 ล้านบาท และต่ำกว่าประมาณการณ์ 3,770 ล้านบาท หรือ 2.5% ทั้งนี้สาเหตุที่กรมจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการณ์ เนื่องจากในช่วงนั้นมีการคำนวณการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ไว้ค่อนข้างสูง แต่ขณะนี้ตัวเลขทางเศรษฐกิจปรับลงมา การจัดเก็บรายได้ก็จะสอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ”
ล่าสุด กรมพยายามเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ซึ่งหมวดภาษีที่เก็บได้สูงที่สุดคืออัตราภาษีรถยนต์ ที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากช่วงสิ้นปีที่ผ่านมามีการจัดงานมอเตอร์โชว์ มีการจัดโปรโมชันส่งเสริมการขาย และภาษีเบียร์ ที่พฤติกรรมของประชาชนเรียนรู้จากการล็อกดาวน์ครั้งที่ผ่านมา จึงมีการซื้อตุนไว้