

- ชี้เน้นตอบโจทย์ 4 เรื่องหลัก
- ต้องเก็บรายได้ถึง 6 หมื่นล้าน
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมได้ปรับปรุงโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่าจะสามารถมีผลบังคับใช้ทันวันที่ 1 ต.ค.64 ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน เนื่องจากมาตรการเลื่อนการขึ้นภาษียาสูบเป็น 40% จากเดิมเก็บ 20% นั้น จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.64 ซึ่งจะทันกับการบังคับใช้ภาษีบุหรี่ใหม่ทันที
ด้านนายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ความคืบหน้าขั้นตอนการปรับปรุงโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่นั้น กรมได้เสนอแนวทางปรับปรุงโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง พิจารณาแล้ว ซึ่งหากได้รับความเห็นชอบจาก รมว.คลังแล้ว ก็จะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติทันที มั่นใจว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้ เพื่อให้ทันโครงสร้างภาษีเดิมที่จะสิ้นสุดในปีงบประมาณ 2564
สำหรับการแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ พิจารณาภายได้แนวทางไม่กระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของกรม ซึ่งที่ผ่านมากรมมีรายได้จากการเก็บภาษีบุหรี่เฉลี่ยปีละ 60,000 ล้านบาท ซึ่งหากมีการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่รอบใหม่ก็จะต้องทำให้สอดคล้องกับการจัดเก็บรายได้ในช่วงที่ผ่านมาด้วย
นอกจากนี้ กรมจะต้องทำให้ตอบโจทย์ใน 4 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.การดูแลเกษตรกร 2.สุขภาพของประชาชน 3.ปราบปรามบุหรี่เถื่อน และ 4.การจัดเก็บรายได้ของกรม ซึ่งจะไม่มีข้อใดมากหรือน้อยกว่า จะพยายามทำให้เหมาะสมและสมดุลมากที่สุด