วันที่ 5 ก.ค.2564 นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร เปิดเผยว่า การปรับปรุงโรงพยาบาลสนามที่เรียกว่า “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” แห่งที่ 10 บริเวณที่ดิน 49 ไร่ ถนนพระราม 2 ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เป็นโรงพยาบาลสนามสีเหลืองเข้ม ลักษณะกึ่งหน่วยรักษาพยาบาลผู้ป่วยขั้นวิกฤต (ไอซียู) ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เช้าวันนี้จะเริ่มมีการทดสอบระบบ และจะเริ่มโหลดผู้ป่วยเข้าทำการรักษาตั้งแต่ราว 10.00 น. เป็นต้นไป
สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่จะนำเข้ารักษาในสถานที่แห่งนี้ เป็นผู้ป่วยที่นอนรอเตียงไอซียู ที่อยู่ในโรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลกระทุ่มแบน และโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) เฉพาะผู้ป่วยกึ่งวิกฤตที่ต้องให้ออกซิเจนที่อยู่ในโรงพยาบาลสมุทรสาคร และรอเตียง ตอนนี้มีอยู่ราว 50 คน จะนำผู้ป่วยกลุ่มนี้เข้าก่อน และจะมีผู้ป่วยในกลุ่มเดียวกันของโรงพยาบาลกระทุ่มแบน และโรงพยาบาลบ้านแพ้ว เข้ารักษาด้วย รวมเตียงไอซียูสนามที่อยู่ที่นี่ 200 เตียง ส่วนถังออกซิเจนเหลว (Liquid Oxygen) ติดตั้งที่โรงพยาบาลสนามที่นี่ มีขนาด 5,000 ลิตร หากมีผู้ป่วย 200 คน รักษาตัวอยู่ ก็จะใช้ออกซิเจนจากถังนี้ได้ 3-4 วัน และจะมีการเติมใหม่ โดยเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ ถ้าออกซิเจนต่ำเหลือที่ 1,100 ลิตร ก็จะเรียกให้ผู้รับจ้างมาเติม
ก่อนหน้านี้ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร มีผู้ป่วยกึ่งวิกฤติ ที่ได้รับออกซิเจนจำนวนมาก นอนรออยู่แถวห้องตรวจโรคทางเดินหายใจ (ARI), แผนกผู้ป่วยนอก (OPD) หรือรออยู่บริเวณห้องฉุกเฉิน จนกว่าเตียงในโรงพยาบาลที่สามารถให้ออกซิเจนว่าง คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ภายใต้การนำของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร มีมติให้ปรับรูปแบบศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 10 เป็นโรงพยาบาลสนามที่สามารถให้ออกซิเจนได้ จึงมีการปรับรูปแบบ และพื้นที่โรงพยาบาลสนามที่นั่น พร้อมติดตั้งระบบให้คล้ายกับไอซียูมากที่สุด โดยได้รับการสนับสนุนจากนายอุดม ไกรวัฒนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ ที่จะนำมาให้บริการผู้ป่วยที่นี่ ใช้ทีมจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วย พยาบาล 12 คน แพทย์ 1 คน และเภสัชกร 1 คน ทีมพยาบาลจากจังหวัดกาญจนบุรี 3 คน และจะมีทีมหลักเป็นบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลสมุทรสาคร มาปฏิบัติงานด้วย ทั้งหมดจะปฏิบัติหน้าที่ 1 เดือน
