

- นำไปเผาที่เอสซีจี จังหวัดระยอง
- ล่าสุด10เดือนแรกของปีงบ2563
- จับสินค้าไร้มอก.ได้แล้วรวม 1,000 ล้านบาท
- นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่ได้มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.)จึงได้กำชับให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจควบคุม และกำกับติดตามสินค้าที่จำหน่ายในท้องตลาดอย่างเข้มงวด หากไม่เป็นไปตามมอก. ก็ ให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา สมอ.ได้ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เพื่อนำสินค้าที่ตรวจจับได้ระหว่างปี2555-2563 และได้ดำเนินคดีสิ้นสุดแล้ว ไปทำลาย รวม 350,000 ชิ้น มูลค่ารวม 33ล้าน บาท ประกอบด้วยสินค้าหลายชนิด เช่น กระทะไฟฟ้า ก๊อกน้ำ ของเล่น ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ หมวกนิรภัย เตารีด พัดลม เตาปิ้งย่าง และสวิตซ์ไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าเหล่านี้กลับไปหมุนเวียนในท้องตลาดหรือนำกลับมาใช้ได้อีก เพราะสินค้าบางรายการอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
สำหรับกระบวนการทำลาย สมอ. ได้ร่วมกับบริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด โรงไฟฟ้ามาบตาพุด อีโค่-เอ็นเนอร์ยี แพลนท์ ซึ่งเป็นโรงงานกำจัดขยะอุตสาหกรรมชั้นนำ ของประเทศไทย ท่ีจังหวัดระยอง ที่ สามารถรองรับขยะอุตสาหกรรมได้หลากหลายประเภทและขนาด ทั้งอันตรายและไม่เป็นอันตราย โดยกระบวนการดำเนินงานทุกขั้นตอนเป็นแบบระบบปิด มีระบบการควบคุมมลพิษ และของเสียตามมาตรฐานสากล ตั้งแต่การรับขยะอุตสาหกรรมจากผู้ประกอบการ การขนส่งไปยังจุดคัดแยกประเภทเพื่อเตรียมกำจัด การเข้าสู่กระบวนการกำจัดด้วยเทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชั่น ร่วมกับแอชเมลติ้ง (Gasification with Ash Melting) ซึ่งเศษวัสดุที่ได้จากการเผาไหม้ เช่น อะลูมิเนียม เหล็ก เถ้าลอย ยังนำกลับไปใช้ใหม่ได้ ส่วนวัสดุเผาไหม้ไม่ได้ (Incombustible) สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบแทนการก่อสร้างถนนได้ โดยกระบวนการนี้ทำให้ไม่เหลือขยะอุตสาหกรรมที่ต้องกำจัดเพิ่ม นอกจากวัสดุที่เป็นผลพลอยได้ ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน
ท้ังนี้ ระหว่างวันที่ วันที่ 1ต.ค.2562 – 31 ก.ค.ที่ผ่านมา สมอ.ได้อายัดสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมอก. ทั้งที่จำหน่ายในท้องตลาด และทางออนไลน์ได้รวม 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้า 7 ประเภท คือ เหล็กและวัสดุก่อสร้าง ,เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ไดร์เป่าผม เตารีด เต้ารับเต้าเสียบ พัดลม เตาปิ้ง เตาย่าง กระติกน้้าร้อน หม้อหุงข้าว หลอดไฟ และกระทะ, ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ได้แก่ ยางล้อ ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ , ปิโตรเลียม เคมี และพอลิเมอร์ เช่น หมวกกันน็อค ถังน้ำพลาสติก ท่อพีวีซี และฟิล์มหุ้มอาหาร ,ผลิตภัณฑ์โภคภัณฑ์ ได้แก่ ของเล่น ,ผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น น้ำดื่ม วุ้นเส้น , ผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ ได้แก่ ถุงมือทางการแพทย์ สินค้าเหล่านี้เมื่อคดีสิ้นสุดแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการทำลายต่อไป