“สมคิด”บินด่วนพบ 4 รัฐมนตรีญี่ปุ่น 16-19 ก.พ.นี้

  • ที่ปรึกษาพิเศษรัฐบาลญี่ปุ่นรุกเข้าพบ
  • นายกฯญี่ปุ่นระดมเงิน 3,000 ล้านดอลลาร์
  • ดันเอกชนญี่ปุ่นลงทุนในอาเซียน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายคิยามะ ชิเกรุ ที่ปรึกษาพิเศษรัฐบาลญี่ปุ่นและทูตโครงการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ได้เข้าพบ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยยืนยันว่าประเทศไทยยังคงเป็นฐานการลงทุนที่สำคัญของญี่ปุ่น และได้สอบถามถึงความคืบหน้าการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ซึ่งก็ได้ยืนยันไปว่ามีความคืบหน้าที่ดี และขณะนี้ประเทศไทยกำลังพัฒนาที่ครอบคลุมมากขึ้น ผ่านโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) และโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(NEEC) ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาด้านเกษตรอินทรีย์ ที่สามารถสร้างความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ นายชิเกรุ ได้กล่าวถึงนโยบายของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นที่กำลังระดมเงิน 3,000 ล้านดอลลาร์ ผ่านข้อริเริ่มด้านเงินกู้และการลงทุนสำหรับอาเซียน (Initiative on Overseas Loan and Investment for ASEAN) เพื่อสนับสนุนให้ภาคเอกชนและภาคการเงินของญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในอาเซียนเพิ่มมากขึ้นซึ่งเป็นแนวโน้มที่ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ด้วยในฐานะฐานการลงทุนหลักของญี่ปุ่น ขณะที่ทางบริษัทเอกชนญี่ปุ่นได้แสดงความสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของไทย โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อส่งเสริมการสร้างความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคและภูมิภาค

ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 16-19 ก.พ. นี้ ตนเองจะนำคณะไปยังประเทศญี่ปุ่นซึ่งจะมีโอกาสพบกับรัฐมนตรีของกระทรวงสำคัญของญี่ปุ่นเช่นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กระทรวงเศรษฐกิจและการค้า(เมติ) กระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น(เจโทร) รวมทั้งจะหารือร่วมกันระหว่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรของไทยและญี่ปุ่น เพื่อผสานความร่วมมือ นำโมเดลการพัฒนาเกษตรกรของญี่ปุ่นมาพัฒนาเกษตรกรไทยด้วย