สภาป่วน! “รัฐบาล-ฝ่ายค้าน” ใส่ไม่ยั้งตั้งแต่ยังไม่เริ่มวาระแรก ประธานสภาฯ ต้องสั่งเบรกพักเคลียร์ปัญหา



  • ปมพรรคพลังประชารัฐ เสนอให้เลื่อนวาระประชุม ยกการพิจารณาเปิดสถานบันเทิงขึ้นมาก่อน
  • “เพื่อไทย” สวนค้าน ลั่นไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ขอให้พิจารณาตามระเบียบวาระเดิม
  • “ไพบูลย์” ใส่ต่ออยากให้เปิดรายชื่อคนไม่ยอมเข้าประชุม ลั่นทราบส่วนใหญ่เป็นของฝ่ายค้าน
  • “เพื่อไทย” เดือด! ท้าขอให้ขานชื่อนับองค์ประชุมแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 พ.ย.64) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอให้เลื่อนระเบียบวาระการประชุมในวันที่ 25 พ.ย.2564 โดยให้นำญัตติเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ ขึ้นมาพิจารณาก่อน แต่นายจุลพันธุ์อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้คัดค้าน โดยบอกว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ขอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระเดิมของวันที่ 25 พ.ย.

จากนั้นต้องมีการโหวตลงมติชี้ขาดกัน โดยผลปรากฏว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้เลื่อนญัตติดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาก่อนด้วยคะแนน 234 ต่อ 80 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 1 ทำให้นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยไม่พอใจ โดยกล่าวบอกว่า จะมาใช้วิธีเสนอญัตติเร่งด่วนเข้ามาแทนวาระปกติบ่อยๆไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญ และเร่งด่วนจริงๆ

ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ก็ได้ลุกขึ้นตอบโต้กลับทันทีว่า อยากให้เปิดเผยรายชื่อคนไม่ยอมเข้าประชุม เพราะทราบว่าส่วนใหญ่เป็นของฝ่ายค้าน ทำให้ส.ส.ฝ่ายค้านไม่พอใจ ประท้วงกันยกใหญ่เกิดความวุ่นวายในห้องประชุมตามมา โดยนายพิเชษฐ ตะโกนสวนดังลั่นว่า “คนชื่อไพบูลย์มันแย่ๆจริง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุดังกล่าวนายชวน ได้พยายามไกล่เกลี่ยให้เหตุการณ์สงบลง เพื่อให้การประชุมสามารถเดินหน้าต่อได้ พร้อมให้นายไพบูลย์ถอนคำพูดที่กล่าวหาฝ่ายค้าน แม้นายไพบูลย์ถอนคำพูด แต่ฝ่ายค้านยังประท้วงตลอด จากนั้นนายจุลพันธ์ ได้ลุกขึ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า ฝ่ายค้านอยู่ในห้องประชุมตลอดเวลา ตั้งแต่เช้ายันเย็น เมื่อมากล่าวหากันเช่นนี้ ขอเสนอญัตติให้นับองค์ประชุมโดยการขานชื่อ แม้นายชวนพยายามขอให้ถอนญัตติดังกล่าว โดยบอกว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่นายไพบูลย์พูด แต่นายไพบูลย์ยอมถอนคำพูดแล้ว เรื่องควรจะจบ เดินหน้าประชุมต่อไป แต่นายจุลพันธุ์ ยังยืนยันไม่ถอนญัตติ

ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้ลุยกล่าวเสริมว่า สิ่งที่นายไพบูลย์พูดทำให้ฝ่ายค้านถูกประชาชนมองในทางที่ผิด โดยพฤติกรรมนายไพบูลย์พูดจาหมิ่นฝ่ายค้านบ่อยครั้ง แค่ถอนคำพูดไม่พอ ต้องไปนั่งหน้าบัลลังก์เอาดอกไม้มากราบขอโทษ แล้วจะไปบอกนายจุลพันธ์ถอนญัตติให้

ทั้งนี้เหตุการณ์ได้เริ่มมีความระอุขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนั้นนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ไม่มีระเบียบข้อบังคับการประชุมใด ขอให้นับองค์ประชุมโดยการขานชื่อ ระหว่างการประชุม ดังนั้นจึงขอเสนอญัตติให้ลงมติโดยใช้วิธีเสียบบัตรในการนับองค์ประชุมซ้อนขึ้นมาเป็นอีกญัตติหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายนิโรธกล่าวจบ ก็มีความวุ่นวายเกิดขึ้นในสภาหนักยิ่งขึ้น ส.ส.ฝ่ายค้านพากันประท้วงสิ่งที่นายนิโรธเสนอ โดยนายจุลพันธ์ บอกว่า ไม่เคยมีธรรมเนียมที่เมื่อมีการเสนอให้ขานชื่อนับองค์ประชุมแล้ว จะมีการเสนอญัตติซ้อนให้นับองค์ประชุมโดยวิธีเสียบบัตร โดยทั้งสองฝ่าย ต่างใส่หนักถกเถียงกันเป็นเวลานานกว่า 20 นาที

กระทั่งนายนิโรธ ได้เสนอขอพักประชุม 10 นาที ให้วิปทั้งสองฝ่าย ไปตกลงเคลียร์ข้อขัดแย้งกัน ซึ่งนายชวนอนุญาตให้พักประชุม 15 นาที

จากนั้นเมื่อเวลา 11.34 น. การประชุมได้เริ่มใหม่อีกครั้ง โดยนายจุลพันธ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันระหว่างวิปสองฝ่ายแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณประธานวิปรัฐบาล ที่รับปากว่าจะไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกันอีก และยินดีถอนการนับองค์ประชุมด้วยการเสียบบัตร แต่ฝ่ายค้านจำเป็นต้องให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อต่อไป

ขณะที่นายนิโรธ กล่าวถึงเหตุผลการถอนการนับองค์ประชุมแบบเสียบบัตรว่า เรื่องประเพณีก็เป็นเรื่องประเพณี เรื่องข้อบังคับก็เป็นเรื่องของข้อบังคับ แต่เพื่อให้การดำเนินการไปได้ก็ขอถอน จากนั้นที่ประชุมจึงเริ่มนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ