สบายใจหายห่วง “กรมชลฯ” ผลักดันน้ำเค็มสำเร็จ ไม่กระทบการผลิตประปาแล้ว

  • อธิบดีกรมชลฯ ระบุปฏิบัติการระดมน้ำดันลิ่มความเค็มแม่น้ำเจ้าพระยาสำเร็จ
  • เผยน้ำทะเลขึ้นสูงสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา
  • วัดค่าความเค็มของน้ำดิบที่หน้าสถานีสูบน้ำสำแลต่ำกว่าเกณฑ์เฝ้าระวัง
  • เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนอีกรอบ24-25..นี้

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงผลการวัดค่าความเค็มของน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาว่า หน้าสถานีสูบน้ำสำแล .ปทุมธานี เวลา 09.00 วันนี้ (13 ..) อยู่ที่ 0.16 กรัม/ลิตร ต่ำกว่าค่าเฝ้าระวังซึ่งอยู่ที่ 0.25 กรัม/ลิตร เมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดของระลอกนี้ จึงถือว่าปฏิบัติการผลักดันน้ำเค็มเป็นผลสำเร็จ ทั้งนี้กรมชลประทานได้ระบายน้ำจากหลายทางมาสู่ด้านท้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จากเขื่อนเจ้าพระยาอัตรา 100 ลบ../วินาที เขื่อนพระราม 6 อัตรา 11 ลบ../วินาที ผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองผ่านคลองพระยาบันลือ 24 ลบ../วินาทีและนำน้ำแม่น้ำท่าจีนมาเสริมคลองปลายบางอัตรา 6 ลบ../วินาที รวมทั้งสิ้น 141 ลบ../วินาที ซึ่งทำมาตั้งแต่วันที่ 7 .ที่ผ่านมา เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำหนุนจนถึงหนุนสูงที่สุดเมื่อคืนนี้

ทองเปลวกองจันทร์

นายทองเปลว กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือจากการประปานครหลวง (กปน.) ให้หยุดสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำสำแลเข้าสู่ระบบการผลิตประปาในช่วงน้ำทะเลลงเป็นเวลา 2 ชั่วโมงต่อวัน เพราะช่วงน้ำทะเลลงมีลิ่มความเค็มค้างอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา หาก กปน.ยังคงสูบตามปกติ 60 ลบ../วินาที น้ำที่เหลือไม่เพียงพอจะผลักดันลิ่มความเค็มได้ แต่เมื่อหยุดสูบตามเวลาที่กำหนดทำให้ค่าความเค็มเจือจาง โดยเวลา 15.00 วานนี้ (12 ..) ค่าความเค็มสูงสุดหน้าสถานีสูบน้ำสำแลอยู่ที่ 0.55 ลบ../วินาที สูงกว่าเกณฑ์ควบคุมสำหรับผลิตน้ำประปาที่ 0.50 ลบ../วินาทีไปเล็กน้อย ซึ่งไม่มีการสูบเข้าระบบ จากการตรวจวัดเช้านี้ลิ่มความเค็มถอยห่างจากสถานีสูบน้ำสำแลไปอยู่บริเวณสะพานปทุมธานี 2 ซึ่งอยู่ห่างไป 9 กิโลเมตร จึงไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ

อย่างไรก็ตามจากนี้จนถึงวันที่ 17 .จะเป็นช่วงที่น้ำทะเลลดลงตามลำดับ ซึ่งกรมชลประทานจะลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ที่ 95 ลบ../วินาที จนถึงวันที่ 15 .แล้วจะคงการระบายอยู่ที่ 90 ลบ.ต่อไป แต่การบริหารจัดการน้ำจะเป็นไปตามสถานการณ์ โดยพร้อมรับภาวะน้ำทะเลหนุนอีกระลอกวันที่ 24-25 ..นี้ แต่ไม่น่ากังวลเนื่องจากระดับน้ำทะเลไม่ขึ้นสูงเท่ากับครั้งนี้

กำลังเร่งทำแผนสำรวจภูมิประเทศด้านวิศวกรรมแบบ 3 มิติของคลองพระยาบันลือ เนื่องจากเป็นคลองสำคัญที่รับน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองมาเสริมลุ่มเจ้าพระยา เพื่อผลักดันค่าความเค็ม ทำให้ทราบลักษณะท้องน้ำและคำนวณความจุของคลองได้อย่างแม่นยำ โดยเป็นนวัตกรรมที่นำมาใช้บริหารจัดการน้ำเค็มลุ่มเจ้าพระยาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” นายทองเปลว กล่าว