

- เหตุราคาพลังงานจ่อพุ่งดันเงินเฟ้อไทย-ทั่วโลกทะยาน
- แม้ไทยเพิ่งลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 3 บาทยาว 3 เดือน
- ทำราคาดีเซลลง 2 บาท ลดความร้อนแรงราคาสินค้า-เงินเฟ้อ
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลได้ปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 3 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน และส่งผลให้ราคาขายปลีกในประเทศกลุ่มน้ำมันดีเซลลดลงลิตรละ 2 บาทตั้งแต่เดือนก.พ.-พ.ค.65 นั้น คาดว่า จะทำให้อัตราเงินเฟ้อของไทยในช่วงเดือนก.พ.-พ.ค.65 ลดลงได้ 0.22% ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจ รวมทั้งจะช่วยชะลอการปรับขึ้นของราคาสินค้าได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ห่วงกังวลวิกฤติยูเครน ที่ทวีความรุนแรงขึ้น จะทำให้ราคาพลังงานพุ่งขึ้น และส่งผลต่อเงินเฟ้อทั่วโลก รวมทั้งไทยได้
ทั้งนี้เพราะราคาพลังงานที่สูงขึ้น มีผลทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ทั้งทางตรง และทางอ้อม เพราะในสินค้าและบริการ ที่สนค.นำมาคำนวณเงินเฟ้อนั้น ราคาพลังงาน มีสัดส่วนน้ำหนักมาก เมื่อราคาพลังงาน ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตสินค้าต้นทุนการขนส่งสินค้าสูงขึ้น ก็จะส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นตาม และเมื่อราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นตามไปด้วย
“อย่างในเดือนม.ค.65 ที่เงินเฟ้อสูงขึ้น 3.23% เมื่อเทียบเดือนม.ค.64 นั้น ราคาพลังงาน มีส่วนทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นถึง 2.25% เพราะราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้นถึง 19.22% นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากการเดินทางก๊าซหุงต้ม และไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาก เพราะสิ่งเหล่านี้มีต้นทุนมาจากน้ำมันทั้งสิ้น”
ส่วนประเด็นวิกฤตรัสเซียและยูเครนนั้น สนค.เป็นห่วงว่า จะซ้ำเติมให้ค่าครองชีพคนไทยสูงขึ้น เพราะหากสหรัฐฯและพันธมิตร ประกาศคว่ำบาตรทางการเงินและการค้ารัสเซีย จะยิ่งทำให้ราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้น เพราะรัสเซีย เป็นผู้ผลิตน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติรายใหญ่นอกกลุ่มโอเปก (ประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก) ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าและบริการสูงขึ้นไปอีก เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง, ก๊าชธรรมชาติ, ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี, เคมีภัณฑ์สำเร็จรูป, สินแร่, เหล็กและผลิตภัณฑ์, ปุ๋ย และบริการขนส่ง/โลจิสติกส์ ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตสินค้าทั้งสิ้น