

วันที่ 30 สิงหาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยระหว่างแถลงรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ถึงการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 สำหรับประชาชนทั่วไป ว่า ข้อมูลใหม่ที่คณะอนุกรรมการวิชาการ ในคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค มีมติให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับประชาชน ซึ่งกำลังเวียนมติให้กรรมการให้ความเห็นชอบ และจะมีการลงความเห็นชอบอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.64) หลังจากนั้นจะนำเสนอในที่ประชุมอีโอซี สธ.ให้รับทราบ
“ภาพรวมคือ บูสเตอร์โดสแน่นอน เมื่อวัคซีนมีความพร้อมเข้ามามาก ๆ โดยเราคาดว่า จะมีวัคซีนเข้ามามากในปลายเดือน ก.ย. ถึงต้นเดือน ต.ค.64 แต่หากวัคซีนไม่เข้ามา เราก็ขยับไปตามปริมาณวัคซีนที่เข้ามา”
นพ.โอภาส กล่าวและว่า การกระตุ้นเข็มที่ 3 นั้น จะขึ้นกับปริมาณวัคซีนที่เข้ามา อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์พบว่า เดือน ต.ค.นี้ จะมีวัคซีนเข้ามามากประมาณ 20 ล้านโดส ดังนั้น ช่วงเดือน ต.ค. จะสามารถฉีดวัคซีนกระตุ้นให้แก่ประชาชนที่ได้รับวัคซีน 2 เข็มมาก่อนหน้านี้ แต่หากในกรณีที่วัคซีนไม่เข้ามาตามกำหนดการก็จะขยับปริมาณการให้วัคซีนต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า วัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 สำหรับประชาชนทั่วไป จะต้องเป็นยี่ห้อไหน นพ.โอภาส กล่าวว่า โดยหลักต้องเป็นคนละชนิด โดยหากใครได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ซึ่งเป็นเชื้อตาย ก็จะได้รับการกระตุ้นเป็นไวรัลเวกเตอร์ หรือ แอสตร้าเซนเนก้า หรืออาจเป็นชนิด mRNA หรือ ไฟเซอร์ ดังนั้น มีการเตรียมวัคซีนแอสตร้าฯ และไฟเซอร์ รองรับ แต่เพื่อความชัดเจนขอให้รอมติอย่างเป็นทางการต่อไป
ด้าน นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า เตรียมจัดหาวัคซีนป้องกันโควิดในช่วงก่อนสิ้นปีนี้ โดยตั้งแต่เดือน ส.ค.-ก.ย. ซิโนแวคจะเข้ามาเพิ่ม 12 ล้านโดส เพื่อนำเข้ามาฉีดไขว้กับแอสตร้าเซนเนก้า
ส่วนแอสตร้าเซนเนก้า ได้ปรับจำนวนการส่งมอบเพิ่มในเดือน ก.ย. เป็น 7.3 ล้านโดส จากเดิม 7 ล้านโดส และในเดือน ต.ค.-ธ.ค. จะส่งมอบให้ไทยเดือนละ 10 ล้านโดส ขณะที่ในเดือน ส.ค.นี้ส่งมาแล้วราว 5.8 ล้านโดส
ด้านไฟเซอร์ภายในเดือน ก.ย. จะส่งมอบให้เบื้องต้น 2 ล้านโดส ก่อนที่เดือน พ.ย.- ธ.ค. ส่งให้เดือนละสูงถึง 10 ล้านโดส รวมทั้งสิ้น 30 ล้านโดส
นพ.เฉวตสรร อธิบายเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดหาวัคซีนหลักในปี 64 มีทั้งหมด 124 ล้านโดส เมื่อรวมกับวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม และโมเดอร์นา จะมีมากถึง 140 ล้านโดส ซึ่งการนำเข้ายังต้องเน้นความปลอดภัยตรวจสอบคุณภาพก่อนกระจาย ส่วนการส่งมอบวัคซีนจะได้จำนวนเท่าที่กล่าวหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิตด้วย
สำหรับการกระจายวัคซีนนั้น คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ และคณะกรรมการวิชาการมีความเห็นตรงกันให้การส่งมอบให้แก่กลุ่มเสี่ยง และพื้นที่เสี่ยงก่อน เพื่อการควบคุมป้องกันโรค
โดยคาดว่าจะครอบคลุมการได้รับวัคซีนโควิด-19 สะสมในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด ฉีดเข็มที่ 1 ครอบคลุมไปแล้ว 68.8% ส่วนจังหวัดอื่นๆ 64 จังหวัด ครอบคลุมเข็มที่ 1 อยู่ที่ 35.2% โดยภาพรวมทั้งประเทศครอบคลุมเข็มที่ 1 อยู่ที่ 43.8% ส่วนกลุ่มที่มีโรคเรื้อรังใกล้เคียงกันคือ 41.1% ส่วนกลุ่มหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปเข็มที่ 1 ยังครอบคลุม 7.5% จึงขอแนะนำให้ไปฉีดวัคซีนเช่นกัน
นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงเวลาอีก 4 เดือนก่อนสิ้นปี 2564 ว่า สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่นั้น ทั้งนี้ จะเห็นว่า ตั้งแต่เดือนส.ค. – ก.ย. อย่างกรณีซิโนแวคที่หาเพิ่มเติมมา 12 ล้านโดส ซึ่งเป็นประโยชน์ในการนำมาฉีดไขว้กับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า
โดยจากเดิมกำหนดว่า แอสตร้าฯ จะส่งมอบเดือน ก.ย. จาก 7 ล้านโดส ปรับเป็น 7.3 ล้านโดส และเดือน ต.ค.-ธ.ค. อย่างละ 10 ล้านโดส จากเดิมกำหนด 7 ล้านโดส ส่วนไฟเซอร์ จะส่งมอบ ก.ย. 2 ล้านโดส ต.ค.อีก 8 ล้านโดส และ พ.ย.-ธ.ค.เดือนละ 10 ล้านโดส