

- หลังสบส.ออกประกาศให้ศูนย์หารพ.ให้ผู้ติดเชื้อเอง
- แต่ไม่มีรพ.เอกชนรายใดยอมรับอ้างเตียงไม่พอ
- วอนสบส.ยกเลิกประกาศ-ขู่ปิดศูนย์ไม่รับตรวจโควิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ คลีนิคเทคนิคการแพทย์ หรือศูนย์แล็บที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ขนาดใหญ่หลายแห่งในกรุงเทพฯ มีปัญหาในทางปฏิบัติ กรณีที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศ เรื่องแนวทางป้องกัน ควบคุมและส่งต่อผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา กรณีสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน เมื่อวันที่ 9 เม.ย.64 โดยมีข้อบังคับว่า “กรณีผลการตรวจคัดกรองพบเชื้อให้แจ้งผลการตรวจฯ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และต้องดำเนินการประสานกับสถานพยาบาลของรัฐ หรือสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับการรักษาพยาบาลโดยทันที”
โดยประกาศดังกล่าว หมายความว่า หากศูนย์แล็บตรวจพบผู้ติดเชื้อ จะต้องประสานกับโรงพยาบาลเอกชน เพื่อส่งต่อคนไข้ที่ตรวจพบเชื้อโควิด แต่ในความเป็นจริง โรงพยาบาลเอกชนมักไม่รับคนไข้เหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกลัวเตียงจะไม่เพียงพอรับคนไข้ทั่วไป เพราะการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ต้องใช้เวลานานกว่า 14 วัน รวมถึงการได้รับเงินสนับสนุนเป็นค่ารักษาโควิด-19 จากรัฐบาลไม่เพียงพอ โดยได้รับเพียง 50,000 บาท/คนไข้โควิด 1 ราย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อาจมีค่ารักษานับแสนบาทหากอยู่โรงพยาบาลนาน จึงเกรงว่า ผู้ป่วยอาจจ่ายเองไม่ไหว ส่งผลให้โรงพยาบาลเอกชน ปฏิเสธที่จะรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากศูนย์แล็บ ขณะเดียวกัน หากศูนย์แล็บ จะส่งไปโรงพยาบาลรัฐ ก็ไม่สามารถดำเนินการได้เอง เพราะต้องแจ้งเรื่องไปยังโทร.1668 เพื่อประสานหาเตียงให้ผู้ป่วย แต่กว่าที่ผู้ติดเชื้อจะทราบผล ก็ใช้เวลานานหลายวัน บางรายไม่ได้เตียงด้วยซ้ำ
สำหรับกรณีนี้ ผู้ประกอบการศูนย์แล็บ ได้รวมตัวกันเพื่อเข้าพบอธิบดีกรมสนับสนุนฯ และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ซึ่งได้รับทราบปัญหา และแนะนำให้ศูนย์แล็บทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับโรงพยาบาลเอกชนเอง เพื่อให้โรงพยาบาลเอกชนรับตัวผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษา แตก็ไม่มีโรงพยาบาลเอกชนรายใดยอมทำเอ็มโอยูด้วย จึงต้องการให้กรมสนับสนุนและบริการสุขภาพ ยกเลิกประกาศดังกล่าว ไม่เช่นนั้น ศูนย์แล็บหลายแห่ง อาจปิดรับการตรวจเชื้อโควิด-19 ในเร็วๆ นี้
เนื่องจากประกาศดังกล่าว สร้างภาระให้กับศูนย์แล็บ เพราะรัฐไม่สามารถหาเตียงให้ผู้ป่วยได้ หรือกว่าจะหาได้ต้องใช้เวลานาน อีกทั้งยังต้องใช้เส้นสายกันอีก ทั้งๆ ที่ศูนย์แล็บเป็นเพียงผู้สนับสนุนโรงพยาบาล ไม่ได้เป็นด่านหน้าที่จะต้องตรวจเชื้อเองเหมือนโรงพยาบาล แต่การที่ศูนย์แล็บเปิดตรวจหาเชื้อเอง เพราะต้องการช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับคามสะดวกในการตรวจหาเชื้อ ลดความแออัดของการไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล และทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง เพราะที่ผ่านมา โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งไม่รับตรวจแล้ว อาจเพราะเกรงว่า เมื่อตรวจพบผลเป็นบวก จะต้องรับผู้ติดเชื้อไว้รักษา แต่จากปัญหาที่กล่าวมาแล้วคือ กลัวเตียงเต็ม และไม่ได้รับเงินจากรัฐบาลอย่างเพียงพอ จึงไม่อยากรับคนไข้โควิดไว้รักษา อย่างไรก็ตาม การเปิดรับตรวจหาเชื้อของศูนย์แล็บ ไม่ได้ทำให้ศูนย์แล็บกลายเป็นฮีโร่ แต่ต้องการช่วยเหลือประชาชน และต้องการให้รัฐตรวจหาเชื้อแบบเชิงรุกให้ได้มากที่สุด ไม่อยากให้รัฐกลัวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นมาก แต่อยากให้มองว่า เป็นการป้องกันการแพร่ระบาดมากกว่า