ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจฯ ไทยพาณิชย์ ชี้ เงินบาทยังแข็งค่า



  • เงินบาทเข็งโป้กส่งท้ายปีไทยพาณิชย์ปีนี้อยู่ในกรอบ 29.50-30.50บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
  • ไทยยังเผชิญดุลบัญชีเดินสะพัดสูง-การลงทุนต่างประเทศต่ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ( อีไอซี ) ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทในปีนี้ จะยังเผชิญแรงกดดันด้านแข็งค่าอยู่ต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่น้อยลงจากปีที่ผ่านมา โดยมองว่า เงินบาท ณ สิ้นปีนี้ จะอยู่ในกรอบ 29.5-30.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจาก ไทยยังต้องเผชิญปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดยังคงเกินดุลในระดับสูง ขณะที่ความต้องการลงทุนในต่างประเทศยังต่ำ (home bias ยังคงสูง) จึงทำให้มีความต้องการเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐในปริมาณมาก อีกทั้งดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสปรับอ่อนค่าลงได้เล็กน้อยทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นโดยเปรียบเทียบ 

อย่างไรก็ดี ปัจจัยหนุนที่ช่วยให้เงินบาทจะไม่แข็งค่าขึ้นเร็วมากเท่าในปีที่ผ่านมาคือ การลงทุนในต่างประเทศของภาคธุรกิจไทยอาจมีแนวโน้มปรับดีขึ้นบ้าง การขายทำกำไรทองคำมีแนวโน้มลดลง และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไทย-สหรัฐฯ ที่อาจกว้างขึ้นได้

ทั้งนี้ค่าเงินบาทในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วจนเป็นที่จับตามองจากหลาย ๆ ฝ่าย ซึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท. ) ออกมาระบุว่า การแข็งค่าอย่างรวดเร็วนี้เป็นผลจากสภาพคล่องในตลาดเงินที่อยู่ในระดับต่ำในช่วงวันหยุดเทศกาล ทำให้การทำธุรกรรมซื้อขายเงินตราไม่สมดุล อีกทั้งยังเป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐด้วยเช่นกัน 

นอกจากนี้อีไอซี ปรับมุมมองค่าเงินบาท ณ สิ้นปีนี้อยู่ในกรอบ 29.5-30.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ(จากคาดการณ์เดิม ณ รายงาน Outlook ของไตรมาสก่อนที่ 30-31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) โดยค่าเงินบาทในปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ 31.05 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 4.1% จากปี 2561 ขณะที่ดัชนีค่าเงินบาท(Nominal Effective Exchange Rate: NEER) ในปี ที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ 123.2 ปรับแข็งค่าขึ้น 6.6% จากปี2561  เสำหรับในในปีนี้เงินบาทมีแนวโน้มเผชิญแรงกดดันด้านแข็งค่าอยู่ต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่น้อยลงจากปี ที่ผ่านมา