

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้เตรียมเดินหน้าเซ็นสัญญาการดำเนินโครงการท่อส่งน้ำหลักในภาคตะวันออกหรืออีอีซีกับ บริษัท วงษ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด ในฐานะผู้ชนะการประมูล หลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่คุ้มครองชั่วคราวในการเดินหน้าโครงการดังกล่าว
“ในวันนี้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งแล้วว่า ไม่คุ้มครองชั่วคราวในการดำเนินโครงการ หลังจากศาลปกครองกลางได้รับคำร้องจาก บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ ให้คุ้มครองการดำเนินโครงการดังกล่าว ทำให้กรมธนารักษ์ไม่สามารถเดินหน้าโครงการดังกล่าวได้” นายประภาศ กล่าว
นายประภาศ กล่าวด้วยว่า ในส่วนจะมีการเซ็นสัญญากับบริษัทวงษ์สยาม ก่อสร้าง นั้น คงจะมีการเซ็นสัญญาในเร็วๆนี้เพราะทางกรมฯ ได้เลื่อนการเซ็นสัญญากับบริษัทมาตั้งแต่ต้นเดือนส.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สำหรับโครงการท่อน้ำอีอีซีนั้น ปัจจุบันทางอีสวอเตอร์ เป็นผู้ดำเนินการอยู่ แต่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2566 ดังนั้นกรมธนารักษ์ จึงได้เปิดประมูล เพื่อหาผู้ดำเนินโครงการต่อไป โดยทางอีสวอเตอร์ได้เสนอผลตอบแทนให้กับรัฐต่ำกว่าบริษัทวงษ์สยามฯ ทำให้บริษัทวงษ์สยามเป็นผู้ชนะการประมูลในราคา 25,000 ล้านบาท อายุการดำเนินโครงการ30 ปี
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทางกรมธนารักษ์ได้มีการเลื่อนการเซ็นสัญญากับวงษ์สยาม ก่อสร้าง มาแล้วจำนวน 2 ครั้งคือ ในวันที่ 3 พ.ค.2565 เนื่องจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสั่งให้มีการตรวจสอบการดำเนินโครงการประมูลเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และครั้งที่ 2 ในช่วงต้นเดือน ส.ค.2565 หลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 2 ส.ค.2565 ให้ทุเลาการบังคับการดำเนินการประมูลโครงการ ซึ่งมีผลให้กรมธนารักษ์ต้องระงับการเซ็นสัญญาออกไปจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น