“ศรีสุวรรณ” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน แก้ระเบียบเงินผู้สูงอายุ วอนรัฐนิรโทษกรรมผู้รับเงินไปแล้ว



วันที่ 28 มกราคม ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน  ขอให้เร่งตรวจสอบกรณีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เนื่องจากได้รับเงินบำนาญพิเศษโดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายจังหวัดอาทิ กรณีนางบวน โลห์สุวรรณ ชาวอ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ถูกเรียกเก็บเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืน 10 ปี เป็นเงิน 84,000 บาท เนื่องจากได้รับบำนาญกรณีบุตรชายที่เป็นทหารเสียชีวิต

นางทิม สังข์สนิท ชาวอ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ถูกเรียกเงินคืน 121,800 บาท เนื่องจากได้รับบำนาญกรณีลูกชายที่เป็นตชด.เสียชีวิต  นางมาก ช่วยหลำ  ชาวจ.สุโขทัย ถูกเรียกเงินคืน 93,400 บาท กรณีรับบำนาญบุตรชายเสียชีวิตจากการรับราชการทหาร  นางประจวบ ผะดาวัลย์ ชาวอ.เมือง จ.นครราชสีมา ถูกเรียกเงินคืน 76,400 บาท กรณีรับเงินบำนาญพิเศษของสามีที่เป็นตชด.

นางฟอง อินต๊ะปัญญา  อ.เมือง จ.เชียงราย ถูกเรียกเงินคืน 99,200 บาท หลังได้รับบำนาญกรณีบุตรชายที่เป็นทหารเสียชีวิต และนางมะลิ เณรแขก ชาวอ.สรรคบุรี  จ.ชัยนาท ถูกเรียกเงินคืน 102,800 บาท กรณีแม่รับเงินบำนาญพี่ชายทื่เป็นทหารอากาศเสียชีวิต

ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ เห็นว่า การออกระเบียบของกระทรวงมหาดไทยที่กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไม่เป็นธรรมต่อประชาชนจนทำให้กรมบัญชีกลางสั่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปเรียกเก็บเงินคืน จึงขอให้ผู้ตรวจฯพิจารณาและเสนอแนะไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้แก้ไขระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561

โดยให้ยกเลิกที่กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุว่าต้องไม่เป็นผู้ได้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน  และเสนอไปยังกระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางให้ระงับการเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั่วประเทศ รวมทั้งเสนอไปยังรัฐบาลออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับผู้สูงอายุต่างๆ ทั่วประเทศที่ได้รับเบี้ยบำนาญพิเศษต่าง ๆที่ผิดพลาดมาก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจให้ผู้สูงอายุทั่วประเทศ

นายปิยะ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องส่งกระทบต่อสิทธิและประชาชนผู้สูงอายุ ซึ่งเรื่องนี้ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดินให้ความสนใจ ทางสำนักงานฯจึงจะเร่งรัดและเสนอเรื่องดังกล่าวให้ที่ประชุมผู้ตรวจฯพิจารณาโดยเร็วที่สุด