“ศบค.” ขอเวลา 5-7 วัน ดูผลหลังออก “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” เพื่อควบคุมโควิด-19

  • “บิ๊กตู่” กังวลยอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้น
  • พร้อมกล่าวชื่นชมเจ้าหน้าภาครัฐสื่อมวลชนประชนชาที่ร่วมรับมือโควิด
  • กำชับใครฝ่าฝืนจัดการเด็ดขาด

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบคเปิดเผยว่า พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ขอบคุณประชาชน เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เจ้าหน้าที่ ศบค.ทุกคน ที่ทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อย สื่อมวลชนและประชาชนที่เผยแพร่ข้อความสร้างสรรค์ผ่านโซเชียลมีเดีย 

โดยนายกรัฐมนตรีสะท้อนว่าสิ่งสร้างสรรค์เหล่านี้คือ สิ่งที่ประเทศชาติต้องการ พร้อมเน้นย้ำว่าขณะนี้อยู่ในช่วงประกาศ ...สถานการณ์ฉุกเฉิน ใครปฏิบัติไม่ถูกต้องจะมีการลงโทษแบบเด็ดขาด

นอกจากนี้ ในการประชุมกลุ่มเล็กที่มีนายกฯ เป็นประธานวันเดียวกัน (29 มี..) ท่านให้ความสำคัญเรื่องตัวเลขข้อมูลโดยให้ สธ.รายงานเป็นไทม์ไลน์ เพื่อจะได้วิเคราะห์ออกมาตรการแก้ปัญหา และให้แต่ละจังหวัดรวบรวมรายงานและข้อกำหนดที่จังหวัดออกมา เพื่อจะนำมาสื่อสารให้ประชาชนปฏิบัติตาม รวมถึงกำชับเรื่องการหาหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ประชาชนมีใช้อย่างเพียงพอ

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 วันที่ 29 มี.. 2563 มีคนติดเชื้อทั้งโลกแล้ว 645,158 ราย และเสียชีวิต 29,951 ราย ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 143 ราย ยอดสะสม รวมอยู่ที่ 1,388 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมของเดิมเป็น 7 รายโดยเป็นชายไทยอายุ 68 ปี ชาว .นนทบุรี ติดเชื้อมาจากสนามมวย 

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ป่วยวัยทำงานที่สูงขึ้นนั้น เป็นเพราะประชาชนตื่นตัวและเข้ารับการตรวจมากขึ้น และไม่ได้มีการปิดบังตัวเลขแต่อย่างไร ทั้งนี้ การประกาศ ...ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 26 มี.. 2563 เป็นผลดีหรือไม่ ตัวเลขจะสะท้อนออกมาหลังประกาศไปแล้ว 5-7 วัน

นายกฯระบุว่าเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นแล้วยังมีความห่วงและกังวล ดังนั้น มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมจะต้องมีมาตรการที่เฉพาะเจาะจงลงไป โดยสั่งการให้กระทวงมหาดไทยแจ้งมาว่าแต่ละแห่งมีมาตรการอย่างไร และให้รายงานต่อนายกฯทุกวัน ตอนนี้ทุกพื้นที่เข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีการประกาศห้ามเดินทางเข้าออก ยกเว้นต้องการรักษาพยาบาล การขนส่งสินค้า หากใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รัฐบาลต้องทำแบบนี้เพื่อท่านเอง อาจเสียความสะดวกสบายไปบ้าง แต่อดทนสักนิด ทุกอย่างจะกลับคืนกลับมาเหมือนเดิม และขอย้ำว่า รวมกันติดหมู่ แยกกันอยู่เรารอด” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว