

วันที่ 11 กันยายน 2564 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะโฆษก ศธ. เปิดเผยว่า ภาพรวมการจ่ายเงินเยียวยานักเรียนรายละ 2,000 บาท เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดย น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เน้นย้ำให้ดำเนินการด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ ซึ่งที่ผ่านมามีการร้องเรียน กรณีสถานศึกษาหักเงินนักเรียนเข้ามาในหลายช่องทาง ทั้งสายด่วน 1579 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ฯลฯ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมและส่งให้ต้นสังกัดดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป ทราบว่าโรงเรียนที่มีปัญหาหลายแห่งทยอยคืนเงินเด็กแล้ว
นางเกศทิพย์กล่าวต่อว่า ส่วนการเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนเด็กนั้น ศธ. ได้หารือกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อวางแนวทางกระจายวัคซีน โดยจะส่งไปที่จังหวัดเพื่อส่งต่อไปยังโรงเรียน เชื่อว่าไม่มีปัญหาเพราะมีประสบการณ์จากการฉีดวัคซีนครูมาแล้ว เพียงแต่มีขั้นตอนเพิ่มคือใบยินยอมให้ฉีดจากผู้ปกครองตรงนี้เป็นขั้นตอนที่ต้องวางแนวทางร่วมกัน เมื่อวัคซีนพร้อมก็สามารถดำเนินการฉีดได้ทันที ส่วนการฉีดวัคซีนครูนั้นขณะนี้ ดำเนินการไปแล้วกว่า 70% เหลืออีก 30% คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา จะฉีดครบ 100% เมื่อไรนั้น ขึ้นอยู่กับการกระจายวัคซีนของ สธ.
“สำหรับการเปิดเรียนแบบออนไซต์ หรือให้เด็กมาเรียนที่โรงเรียนนั้น ศธ.ทำโครงการโรงเรียน Sandbox Safety Zone in School (SSS) หรือโรงเรียนแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งเน้นโรงเรียนประจำที่มีความพร้อมและมีระบบการดูแลที่ได้มาตรฐานตามที่ สธ.กำหนด เปิดเรียนไปแล้วกว่า 40 โรงเรียน ขั้นต่อไปจะลงไปดูโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ตามแผนที่ของกระทรวงมหาไทย (มท.) เจาะเป็นรายอำเภอ หากพื้นที่ใดไม่มีการระบาด ก็อาจจะให้สามารถเปิดเรียนได้ แต่ต้องเป็นไปตามามตรการที่ สธ.กำหนด ส่วนจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่ใช่พื้นที่ควบคุม ผู้อำนวยการโรงเรียนมีอำนาจพิจารณาเปิดเรียนได้ โดยขณะนี้มีโรงเรียนที่เปิดให้มาเรียนแล้วกว่า 5,000 โรงเรียน” นางเกศทิพย์กล่าว