

- ผู้ปลูกข้าวทั้ง 5 ชนิดตามโครงการประกันรายได้ได้ครบหมด
- หลังราคาตลาดยังต่ำกว่าราคาที่รัฐบาลประกันไว้
- ข้าวเปลือกหอมมะลิชดเชยสูงสุดครัวเรือนละกว่า 3 หมื่นบาท
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.63 คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าว ได้ออกประกาศกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคาข้าวเปลือก ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเปลือก ปี 63/64 รอบที่ 1 งวดที่ 6 สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 7-13 ธ.ค.63 โดยมีมติจ่ายชดเชยส่วนต่างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเปลือกทั้ง 5 ชนิด เพราะราคาตลาดยังต่ำกว่าราคาประกันที่รัฐบาลกำหนด

โดยราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอ้างอิงอยู่ที่ตันละ 12,212.42 บาท ราคาประกันตันละ 15,000 บาท จ่ายชดเชยตันละ 2,727.58 บาท เกษตรกรจะได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 38,186.12 บาท, ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาอ้างอิงตันละ 11,800.74 บาท ประกันตันละ 14,000 บาท ชดเชยตันละ 2,199.26 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 35,188.14 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า อ้างอิงตันละ 9,215.15 บาท ราคาประกันตันละ 10,000 บาท ชดเชยตันละ 784.85 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 23,545.50 บาท
ส่วนข้าวเปลือกหอมปทุมธานี อ้างอิงตันละ 10,182.17 บาท ราคาประกันตันละ 11,000 บาท ชดเชยตันละ 817.83 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 20,445.75 บาท และข้าวเปลือกเหนียว อ้างอิงตันละ 11,246.87 บาท ประกันตันละ 12,000 บาท ชดเชยตันละ 753.13 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 12,050.080 บาท

“หลังออกประกาศแล้ว ส่งเสริมเกษตรกร และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) จะประสานงานกัน โดยธ.ก.ส.มีหน้าที่โอนเงินส่วนต่างเข้าไปในบัญชีของเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.นี้ ซึ่งมีเกษตรกรได้รับชดเชยตามข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตร งวดนี้จำนวน 74,497 ครัวเรือน”
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.63 เป็นต้นมา รัฐบาลได้จ่ายเงินประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรแล้วเกือบ 4 ล้านราย ขณะนี้ยังคงเหลือชาวนาที่แจ้งเก็บเกี่ยวข้าวอีกไม่กี่หมื่นราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน โดยจะประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และจ่ายเงินชดเชยในทุกสัปดาห์ให้กับเกษตรกรที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวต่อไป เพื่อให้ทันได้ใช้เงินในช่วงส่งท้ายปี หลังจากนั้น ในช่วงต้นปี จะจ่ายชดเชยให้กับชาวนาภาคใต้กว่า 300,000 ราย ที่กำลังจะเก็บเกี่ยว โดยยืนยันว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกร มีเงินส่วนต่างถึงมือเกษตรกรเต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่หกตกหล่น เพราะโอนเงินผ่านบัญชีเกษตรกรโดยตรง
