จากปัญหาความต้องการวัคซีนของประชาชนในประเทศจำนวนมากนั้น ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลกันมากว่ารัฐบาลจะมีวิธีการจัดการอย่างไร แม้กระทั่งการฉีดวัคซีนให้ชาวภูเก็ตจำนวนมากให้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมการเปิดประเทศนำร่องที่นี่ ถือเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการ “เอาวัคซีนไปหาประชาชน ไม่ใช่ให้ประชาชนเป็นหมื่นเป็นแสนคนต้องเดินเข้าโรงพยาบาลไปหาวัคซีน”
นอกจากระบบการบริหารจัดการที่คิดอย่างรวดเร็ว เป็นระบบ ลงรายละเอียดทุกขั้นตอนแล้ว ยังมีจิตอาสาจำนวนมากจากหลากหลายภาคส่วนของสังคมมาร่วมด้วยช่วยกัน (การบริหารจัดการจิตอาสาก็ต้องมีระบบที่ดีเช่นกันนะครับ)
ดังนั้นจะเห็นว่า การเร่งฉีดวัคซีนให้กับคนจำนวนมากได้ภายในเวลาสั้นๆ ไม่สามารถทำได้โดยหน่วยงานราชการเท่านั้น ต้องอาศัยพลังของภาคธุรกิจและประชาสังคมด้วย และต้องอาศัยบุคลากรหลากหลายด้านที่มาเสริมบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งขณะนี้ต้องรักษาผู้ป่วยยิ่งกว่าล้นมืออยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามขอชื่นชม campaign “ฉ้าน ฉีด แหล่ว” ด้วยครับ เป็น campaign ที่สร้างความมั่นใจในการฉีดวัคซีน และปลุกกระแสให้คนภูเก็ตทุกกลุ่ม ทุกวัย ลุกขึ้นมาฉีดวัคซีน ทำให้ทุกคนตระหนักว่าการฉีดวัคซีนไม่น่ากลัว เป็นหน้าที่ของพลเมืองเพื่อประโยชน์ของทั้งตัวเองและส่วนรวม
นอกจากนั้นทางหน่วยงานส่วนกลาง และจังหวัดต่างๆ ต้องเร่งศึกษา model การบริหารจัดการการฉีดวัคซีนที่ภูเก็ตอย่างจริงจัง และวางแผนรองรับวัคซีน lot ใหญ่ที่กำลังจะเข้ามาครับ
เรากำลังรบกับศัตรูที่มองไม่เห็น คนภูเก็ตแสดงให้เห็นการรบแบบมียุทธวิธี ในขณะที่อีกหลายแห่งยังคิดติดกรอบ และชิลชิลอยู่เลย
