ลุ้นระทึก!เมียนมาเปลี่ยนรัฐบาลกระทบให้สัตยาบัน “อาร์เซ็ป”



  • เหตุสมาชิกบางประเทศคว่ำบาตรรัฐบาลทหาร
  • ส่อกระทบถึงแผนเปิดเจรจาเอฟทีเออาเซียน-แคนาดา
  • พาณิชย์ยัน “อาร์เซ็ป” บังคับใช้ 1 ม.ค.65 ตามเป้าแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ ประเทศสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ได้แก่ จีน สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ได้ยื่นให้สัตยาบันแล้ว เพื่อให้ความตกลงมีผลใช้บังคับ ส่วนไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการออกกฎ ระเบียบภายในให้สอดค้องกับความตกลง คาดจะเสร็จในเร็วๆ นี้ และยื่นให้สัตยาบันได้ราวเดือนต.ค.64 ขณะเดียวกัน เมียนมา อยู่ระหว่างการยื่นสัตยาบันเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากเมียนมาเปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่แล้ว อาจทำให้หลายประเทศสมาชิกเกิดข้อกังหาในรัฐบาลกองทัพเมียนมา โดยเฉพาะญี่ปุ่น ที่ได้ประกาศคว่ำบาตรเมียนมาในช่วงก่อนหน้านี้ และสิงคโปร์ได้ประณามการใช้ความรุนแรงปราบปรามการประท้วง จึงอาจทำให้การให้สัตยาบันของเมียนได้ถูกต่อต้าน และอาจทำให้การมีผลบังคับใช้อาจชะลอออกไป โดยเมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานเลขาธิการอาเซียน ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังประเทศสมาชิกถึงท่าทีของอาเซียนที่มีต่อเมียนมา ขณะนี้ อยู่ระหว่างการรอคำตอบจากสมาชิก

นอกจากนี้ ยังอาจมีผลกระทบต่อการเปิดเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-แคนาดา ที่เตรียมจะประกาศเปิดเจรจาในเดือนก.ย.นี้ ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-แคนาดาในเดือนก.ย.64 เพราะแคนาดา เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คว่ำบาตรเมียนมา

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สมาชิกอาร์เซ็ป ประกอบด้วย อาเซียน 10 ประเทศ และคู่เจรจา 5 ประเทศคือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ตั้งเป้าหมายร่วมกันที่จะยื่นสัตยาบันโดยเร็ว เพื่อให้ความตกลงมีผลใช้บังคับกับประเทศที่ให้สัตยาบันแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.65 ซึ่งจะทำให้สมาฃิกใช้ประโยชน์จากความตกลงในการขยายโอกาสการค้าสินค้า บริการ และการลงทุน รวมถึงมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้านต่างๆ เพื่อให้สมาชิกสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจ และฟื้นฟูประเทศจากวิกฤติโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนกรณีเมียนมา เปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่ และจะมีการผลกระทบอย่างไรหรือไม่นั้น ขณะนี้ ยังไม่ทราบ เพราะสมาชิกยังไม่ได้หารือกันในเรื่องนี้ แต่เชื่อว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้สัตยาบัน และการมีผลบังคับใช้ เพราะความตกลง กำหนดการมีผลบังคับใช้ต่อเมื่ออาเซียนอย่างน้อย 6 ประเทศ และคู่เจรจาอย่างน้อย 3 ประเทศ รวมเป็น 9 ประเทศให้สัตยาบันแล้ว และหลังจากนั้นอีก 60 วัน ความตกลงจึงจะใช้บังคับได้ ส่วนกรณีการประกาศเจรจาจัดทำเอฟทีเออาเซียน-แคนาดา ก็ไม่น่าได้รับผลกระทบเช่นกัน