“ลุงตู่”ควงทีมเศรษฐกิจ ที่เสริมทัพด้วย”อาคม” แถลงข่าวเรียกความมั่นใจ



  • “สุพัฒนพงษ์”ชี้อาคม”ช่วยเติมเต็ม
  • มี “สันติ”มาช่วยผลักดัน
  • ทำประเทศไทยให้กลับมาแข็งแรง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง โดยนายกฯกล่าวว่า ได้นำทีมเศรษฐกิจมาเพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชนโดยรวมว่าเราจะทำงานอย่างเต็มที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ได้อย่างระมัดระวังที่สุด มาตรการต่างๆที่ทำไปจะครอบคลุมทุกกลุ่ม มุ่งเน้นดูแลบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ช่วยคนไทยหลายสิบล้านคนให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้


“เป้าหมายหลักคือการช่วยคนที่มีรายได้น้อยให้พอมีเงินใช้จ่าย และช่วยให้คนที่มีรายได้มาก คนที่มีเงิน แต่ไม่อยากใช้ได้ออกมาใช้เงินไปด้วย เพื่อดึงเงินเข้าหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีทั้งผู้ผลิต การแปรรูปตลาด ทุกคนต้องช่วยกัน อย่าไปรังเกียจรังงอนซึ่งกันและกัน และขอขอบคุณสมาคมภาคธุรกิจต่างๆที่นำเสนอความคิดเห็นให้ผมได้ทราบ ซึ่งจะนำมาวิเคราะห์หาวิธีดำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้โดยเร็ว”


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบ 3 มาตรการสำคัญที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ โดยก่อนหน้านี้อนุมัติไป 2 โครงการ ได้แก่ 1.มาตรการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ประชาชน 14 ล้านคน คนละ 1,500 บาท 2.มาตรการคนละครึ่ง กระตุ้นค่าใช้จ่ายโดยประชาชนจ่ายครึ่งหนึ่งรัฐบาลช่วยออกอีกครึ่งหนึ่ง ครอบลคลุมประชาชน 10 ล้านคน และล่าสุด ครมงเห็นยชอบมาตรการที่ 3 คือ รช้อปดีมีคืน ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้า 30,000 บาท ไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จะยื่นลดภาษีในปีหน้า ซึ่งตอนแรกขอมา 50,000 บาท คงไม่ไหว จึงเอา 30,000 บาทไปก่อนละกันและหลังจากนี้จะมีมาตรการเฉพาะกลุ่มทยอยออกมาเรื่อยๆ


“ทั้ง 3 มาตรการมีเป้าหมายเพื่อดึงเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เมื่อมีการใช้จ่าย มีการผลิต มีการจ้างงาน สามารถดำรงชีพอยู่ได้ แต่ถ้าดำรงชีพด้วยการใช้จ่ายที่ไม่เกิดประโยชน์มันก็คือปัญหา หนี้ครัวเรือนก็เกิด ช่วงนี้ต้องใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และต้องทำหลายๆมาตรการไปพร้อมๆกัน และทยอยออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องคนไทย ซึ่งรองนายกฯ และรมว.คลังดูตรงนี้อยู่แล้ว”


ด้านนายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า วันนี้มีนายอาคมเข้ามาเป็น รมว.คลังมาเติมเต็ม และมีนายสันติมาช่วยกัน ส่วนของตนที่กำกับดูแลสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดูเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ จากนี้จะมีรมว.คลังจะมาเสริมตนในเรื่องของการหามาตรการดีๆเข้ามาเสริมในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่วนรมช.คลัง จะมาสนับสนุนรมว.คลังในการช่วยกันดูแลเสถียรภาพความมั่นคงทางด้านการคลังของประเทศ เรามีวินัยการคลังที่จะต้องดูแลให้ดีที่สุด เพื่อวันที่โควิด-19 จบสิ้นหรือการควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีแล้ว ประเทศไทยจะมีความเข้มแข็งและแข็งแกร่ง ทางการเงิน ที่จะเดินหน้าเติบโตต่อไปได้ นำประเทศไทยให้กลับมาแข็งแรงมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ในปีนี้


“นายกฯได้กำชับในที่ประชุมครม.ให้ช่วยกันสนับสนุนมาตราต่างๆในการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและให้มีประโยชน์เต็มที่ในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นมาตรการคนละครึ่งที่จะต้องมีการกระจายไปให้ทั่วภูมิภาคประเทศไทย ในโครงการช้อปดีมีคืน ที่สามารถคำค่าใช้จ่ายไปลดภาษีได้ ก็ขอให้กระจายตัวให้ทั่วถึงเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนมาตรการเพิ่มเติมจะขอรอดูผลทางเศรษฐกิจจากมาตรการที่ทยอยออกมาในช่วงปลายปีนี้”