

บีบีซีไทย รายวานว่า หลังจากมีข่าวว่าทีมลิเวอร์พูล ได้ครองแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-20 เหล่าแฟนหงส์แดงหลายพันคนได้ไปชุมนุมกันในย่านใจกลางเมือง และมีการจุดพลุในบริเวณดังกล่าว ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้เล็กน้อยที่ระเบียงชั้นหนึ่งของอาคารลิเวอร์ อายุเก่าแก่กว่าหนึ่งร้อยปี จนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องรุดเข้าดับไฟก่อนที่จะลุกลามเป็นเหตุเพลิงไหม้รุนแรง
สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลออกแถลงการณ์ร่วมกับสภาเทศบาลเมือง และตำรวจเขตเมอร์ซีย์ไซด์เจ้าของท้องที่ว่า “เมืองของพวกเรายังคงอยู่ในวิกฤตด้านสาธารณสุข และพฤติกรรมเช่นนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง”
“โอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดระลอกที่สองของโรคโควิด-19 ยังคงมีอยู่ และพวกเราจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะไม่ทำลายทุกอย่างที่เราได้ทำร่วมกันมากับคนทั้งภูมิภาคในช่วงที่มีการล็อกดาวน์”
“เมื่อถึงเวลาที่สามารถทำได้อย่างปลอดภัย เราจะร่วมกันจัดขบวนพาเหรดฉลองชัยชนะที่ทุกคนจะมาร่วมฉลองกันได้โดยพร้อมเพรียง”
ขณะที่นายโจ แอนเดอร์สัน นายกเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูล กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลและเมืองลิเวอร์พูลต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง
เขาให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุของบีบีซีว่า เขารู้สึก “ผิดหวัง โกรธ และหัวเสีย” กับเหตุการณ์นี้

“ผู้คนถ่ายปัสสาวะที่ประตูทางเข้าอาคารคิวนาร์ด เพราะพวกเขาไปชุมนุมกันพร้อมด้วยเบียร์จำนวนมาก”
“ราว 95% ของแฟนบอลทำตัวดีมาก และเชื่อฟังคำร้องขอความร่วมมือจากเราเรื่องไม่ให้ไปชุมนุมกัน แต่ก็ยังมีคนกลุ่มน้อยที่สร้างความเสื่อมเสียให้แก่ชื่อเสียงของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล
เมื่อคืนวันที่ 26 มิ.ย. เป็นคืนที่สองติดต่อกันที่เหล่าแฟนหงส์แดงหลายพันคนได้ไปฉลองชัยชนะที่พวกเขารอคอยมานาน 30 ปี ส่งผลให้ตำรวจได้ออกคำสั่งให้ประชาชนสลายการชุมนุมในย่านใจกลางเมืองลิเวอร์พูลไปจนถึงวันที่ 28 มิ.ย.
ขณะที่ผู้สื่อข่าวบีบีซีในพื้นที่เผยภาพเจ้าหน้าที่เข้าทำความสะอาดพื้นที่การชุมนุมที่เต็มไปด้วยขยะที่แฟนบอลเอาทิ้งไว้
ที่มา- https://www.bbc.com/thai/international-53205858