วันนี้ (20 ก.ค.65) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขสเปน ได้รายงานพบผู้เสียชีวิตจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศร้อน 510 ราย ในช่วงสัปดาห์แรกของการเผชิญคลื่นความร้อน ซึ่งส่งผลให้บางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงถึง 45 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้ สถาบันสุขภาพคาร์ลอสที่ 3 สังกัดกระทรวงฯ รายงานพบกลุ่มผู้เสียชีวิตข้างต้นระหว่างวันที่ 10-16 ก.ค.65 ที่ผ่านมา โดยพบผู้เสียชีวิตมากที่สุดเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ซึ่งอยู่ที่ 150 ราย โดยระบบติดตามการเสียชีวิตรายวันของสถาบันฯ ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศร้อนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่คลื่นความร้อนทวีความรุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวชี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่าจาก 15 ราย เป็น 60 ราย ในระยะเวลา 4 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10-13 ก.ค. จากนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 93 ราย เมื่อวันที่ 14 ก.ค. และ 123 ราย เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ก่อนจะแตะระดับสูงสุดที่150 ราย เมื่อวันที่ 16 ก.ค. และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเผยแพร่ตัวเลขผู้เสียชีวิตของวันที่ 17 ก.ค.
ทั้งนี้ จากสภาพอากาศร้อนส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุมากเป็นพิเศษ โดยจากยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 510 ราย พบว่าเป็นผู้ที่มีอายุ 85 ปีขึ้นไป จำนวน 321 ราย อายุระหว่าง 75-84 ปี จำนวน 121 ราย และอายุระหว่าง 65-74 ปี จำนวน 44 ราย
อย่างไรก็ดี ยังมีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตในกลุ่มประชากรอายุน้อยกว่า รวมถึงเจ้าหน้าที่เทศบาลในกรุงมาดริดที่เสียชีวิตจากโรคลมแดดจำนวน 2 ราย ทำให้หน่วยงานท้องถิ่นปรับเปลี่ยนชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้คนงานไม่ต้องทำงานกลางแจ้งในช่วงอากาศร้อนที่สุดของวัน ทั้งยังพบนักดับเพลิงและคนเลี้ยงแกะเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าที่กำลังลุกลามในประเทศสเปน รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ทางตอนใต้ของยุโรป
ทั้งนี้ คลื่นความร้อนครั้งนี้นับเป็นระลอกที่ 2 ในช่วงฤดูร้อนของสเปน โดยระลอกแรกกินเวลาตั้งแต่วันที่ 11-17 มิ.ย. และคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 829 ราย ทั่วประเทศ
