

- “อี-วอยเชอร์”คืนเป็นวงเงินในเป๋าตังทุกต้นเดือนถัดไป
- ไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้
วันที่ 1 มิ.ย.2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันนี้คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งหนึ่งในโครงการนั้นคือ โครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” เป็นโครงการใหม่ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศผ่านผู้มีกำลังซื้อ และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
โดยมีผู้ได้รับสิทธิไม่เกิน 4 ล้านคน เพื่อชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการ ได้แก่ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป ค่าบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ผ่านกระเป๋าเงินของรัฐ จีวอลเล็ต (g-Wallet) บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการ
ทั้งนี้จะได้รับวงเงินสนับสนุนในรูปของบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-วอยเชอร์ (e-Voucher) โดยวงเงินใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณสิทธิ e-Voucher จะไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน และยอดใช้จ่ายที่นำมาคำนวณสิทธิไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน และจะได้รับสิทธิ e-Voucher สะสมสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
ทั้งนี้ยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 1-40,000 บาทแรก จะได้รับ e-Voucher จำนวน 10% ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน และยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 40,001-60,000 บาท จะได้รับ e-Voucher จำนวน 15% ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ซึ่งสิทธิ e-Voucher จะคืนเป็นวงเงินใน g-Wallet ทุกต้นเดือนถัดไป โดยไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ โดยวงเงินสำหรับการดำเนินโครงการรวม 28,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นเงิน 268,000 ล้านบาท
สำหรับการลงทะเบียนและการใช้จ่ายของโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีดังนี้
1.ประชาชนผู้สนใจที่มีสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีบัตรประจำตัวประชาชน สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ในวันที่ 21 มิ.ย.64 เป็นต้นไป เวลา 06.00-22.00 น.
2.หากลงทะเบียนผ่านแล้ว ต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) ยกเว้นผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทยฯ หรือผู้ที่มีแอปพลิเคชัน KrungthaiNext
3.หากผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ประสงค์จะเปลี่ยนไปรับสิทธิโครงการ “คนละครึ่ง” ของรัฐ จะต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ “คนละครึ่ง” ผ่านเว็บไซต์ www.คนลุครึ่ง.com ภายในวันที่ 28 มิ.ย.2564 ซึ่งถือเป็นการสละสิทธิโครงการที่ได้รับสิทธิเดิมทันที
4.ประชาชนสามารถใช้จ่ายเงินเพื่อนำมาคำนวณสิทธิได้ในช่วงเดือนก.ค.- 30 ก.ย.2564 และใช้ e-Voucher ได้ในช่วงเดือนส.ค.- 31 ธ.ค. 2564
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 หรือผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” แล้ว ยืนยันสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ได้เลย ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com com หรือ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ตามต้องการ หรือสาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ